“วราวุธ” สรุปผล ร่วมประชุม กมธ.ว่าด้วยสถานภาพสตรี ที่ UN แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลายประเทศชื่นชม พม.-ขอนำตัวอย่างไปขยายผล - MSK News

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2568

demo-image

“วราวุธ” สรุปผล ร่วมประชุม กมธ.ว่าด้วยสถานภาพสตรี ที่ UN แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลายประเทศชื่นชม พม.-ขอนำตัวอย่างไปขยายผล

add
641351_0

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีสมัยที่ 69 (Commission on the Status of Women) หรือการประชุม CSW 69 ซึ่งปี 2568 เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ปฏิญญาปักกิ่ง ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ 

641353_0

641354_0

โดยเฉพาะการได้ร่วมหารือทวิภาคี กับ นายอาคิม สไตเนอร์ (Mr. Achim Steiner) ผู้บริหารสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme) หรือ UNDP โดยมีการพูดคุยถึงสถานการณ์ล่าสุดหลังจากที่ได้เริ่มต้นทำงานไว้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพคนพิการที่กระทรวงพม. ได้ทำควบคู่กับ 6 มหาวิทยาลัย และล่าสุดได้ลงนามในเอ็มโอยูร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วยนั้น วันนี้ได้เริ่มผลิดอกออกผลแล้ว ซึ่ง ผู้บริหารยูเอ็นดีพี ยังได้สอบถามจากตนว่า ได้ไอเดียโครงการใหญ่ขนาดนี้จากการไปงานเพียงงานเดียวหรือ คือเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ได้ไปงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งทาง ผู้บริหารยูเอ็นดีพี ยังบอกด้วยว่าในมิติของคนพิการเป็นอีกหนึ่งมิติที่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสสักเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งที่กระทรวง พม. ทำอยู่นี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สามารถนำไปขยายผลต่อได้อีกหลายประเทศ ซึ่งทางกระทรวง พม.เอง ได้บอกว่าประสบการณ์ของยูเอ็นดีพีมีมากมายจากทั่วโลก ขณะเดียวกันเราก็ยินดีที่จะถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้กับอีกหลายประเทศในการทำงาน

641349_0

นายวราวุธ กล่าวว่า ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่าจากนี้ไปการทำงานของกระทรวง พม. ในเวทีโลกนั้นจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีองค์ความรู้จากประเทศอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับบ้านเรา และสามารถนำองค์ความรู้ของเราไปถ่ายทอดให้กับประเทศอื่นได้เช่นกัน ถือเป็นความสอดคล้องการขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่ตนมอบกระทรวง พม. คือ พันธกิจสำคัญ (Flagship projects) ด้านที่ 6 ขับเคลื่อนพันธกรณีระหว่างประเทศที่สำคัญ อีกด้านหนึ่งคือ ด้านสตรี เพื่อให้เกิดการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสตรีเกิดขึ้น ซึ่งกระทรวง พม. ก็ต้องพัฒนางานในมิตินี้ให้มากขึ้นเช่นกัน และยังรวมไปถึงมิติงานตามนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ซึ่ง ผู้บริหารยูเอ็นดีพีระบุว่า ตนจำได้ดีเพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับตัวเองมากตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเราก็ได้อัพเดทสถานการณ์ไปว่าเราดำเนินการนโยบายดังกล่าวในสายงานใดบ้าง เช่นดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ สตรี และเด็ก ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมา ทางยูเอ็นดีพีได้เห็นว่ากระทรวงพม. ทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจัง

641352_0

นายวราวุธ กล่าวว่า นอกจากนี้ในช่วงที่ได้เข้าร่วมการประชุมการติดตามผลการประชุมโลกว่าด้วยสตรี ครั้งที่ 4 และผลลัพธ์ของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 23 ภายใต้หัวข้อ “สตรี 2000: ความเสมอภาคระหว่างเพศ การพัฒนา และสันติภาพสำหรับศตวรรษที่ 21”นั้น ตนได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทยต่อที่ประชุมสหประชาชาตินั้น ได้ย้ำว่า ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งกระทรวง พม. พยายามที่จะผนวกมุมมองเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเข้าสู่การขับเคลื่อนนโยบายในทุกด้าน ซึ่งรัฐบาลไทย โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำหญิงรุ่นใหม่ ที่ริเริ่มนโยบายหลายด้านเพื่อขับเคลื่อนพันธสัญญา ภายใต้ปฏิญญาปักกิ่ง ได้แก่ นโยบายด้านการจ้างงานและเศรษฐกิจ , การยุติความรุนแรงต่อสตรี , การขจัดความยากจน , การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของสตรีและเด็กหญิง LGBTQIA+ และบุคคลที่เผชิญกับการเลือกปฏิบัติที่ซับซ้อนหลากหลายมิติ

641357_0

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับการกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทยครั้งนี้ ได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากหลายๆ ประเทศในห้องประชุม บางคนเข้ามาแสดงความยินดี เชื่อว่าการทำงานในมิติต่างประเทศของกระทรวง พม. เป็นสิ่งสำคัญที่น่าได้รับการส่งเสริมมากขึ้น เชื่อว่าเพื่อนข้าราชการในกระทรวง พม. คงเห็นแล้วว่าผลงานที่เราทำในประเทศไทยเมื่ออยู่บนเวทีโลกนั้นไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าอีกหลายประเทศที่แก้ไขปัญหาเรื่องสังคม ดังนั้นที่สำคัญ เราต้องหมั่นนำเสนอสิ่งที่เราทำอยู่และมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการทำงานระหว่างประเทศ เพื่อทำให้การดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบางมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำองค์ความรู้จากทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ เพราะแต่ละประเทศมีความละเอียดอ่อน มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ขณะเดียวกันไทยเราก็สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับอีกหลายประเทศได้เช่นกัน สามารถยื่นมือนำองค์ความรู้ไปช่วยประเทศอื่นได้ ถึงแม้ว่างบประมาณกระทรวง พม. จะไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ไม่ได้แปลว่าการทำงานของเราจะน้อยลง เราสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ ที่เรามีให้กับประเทศอื่นได้ ขณะเดียวกันสามารถซึมซับนำสิ่งดีๆ ที่ประเทศอื่นมีมาให้เราได้เช่นกัน

641355_0

641356_0

นายวราวุธ กล่าวถึงการทำงานของกระทรวง พม.ในมิติต่างประเทศควบคู่กับในประเทศว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กระทรวง พม. มีโอกาสทำงานร่วมกับธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ธนาคารโลกให้ความสนใจกระทรวง พม. ซึ่งการทำงานเช่นนี้ทำให้เราสามารถเสริมเขี้ยวเล็บให้กับเพื่อนข้าราชการ และอาสาสมัคร พม. ได้เป็นอย่างดี ในการดูแลกลุ่มเปราะบางกว่า 20 ล้านคน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวง พม. ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. แล้ว เป็นอัตราส่วนมหาศาล ต้องขอบคุณเพื่อนข้าราชการ อาสาสมัคร พม. ทำงานกันอย่างเต็มที่ในการดูแลพี่น้องประชาชน กระทรวง พม. คือ ถาดรองถาดสุดท้ายของสังคมไทย ไม่ใช่ตาข่าย ที่ย้ำคำนี้เพราะตาข่ายไม่ว่าจะถี่ขนาดไหน แต่ก็ยังมีบางส่วนหลุดรอดไปได้ แต่ กระทรวง พม. เราไม่สามารถที่จะปล่อยให้คนกลุ่มเปราะบางคนใดคนหนึ่งหลุดไปได้เลย เรามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลทุกคน เพราะสังคมไทยจะเดินไปข้างหน้านั้น ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง ที่ผ่านมา กระทรวง พม. ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีภารกิจที่เหลืออยู่อีกมากข้างหน้าที่จะต้องสานต่อ ซึ่งกระทรวง พม. เป็นด่านสุดท้ายแล้ว ถ้าหากว่าหลุดจากกระทวง พม.ไปแล้ว พี่น้องกลุ่มเปราะบางนั้นจะไม่มีใครดูแลเขา จึงขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร พม. ทุกคน ในการช่วยกันดูแลสังคมเพื่อไม่ให้มีใครตกค้างไว้ข้างหลัง#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #วันสตรีสากล #สตรี #สหประชาชาติ #นิวยอร์ก #สหรัฐอเมริกา #ประเทศไทย #ประชุมCSW #CSW #ปฏิญญาปักกิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *