ประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum เดินหน้าสร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัย สู่อนาคตที่ยั่งยืน - MSK News

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568

demo-image

ประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum เดินหน้าสร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัย สู่อนาคตที่ยั่งยืน

add
D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_34_0_0

เปิดม่านเวทีประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum ครั้งที่ 25 สร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัย ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน ย้อนเล่าความสำคัญกว่าจะเป็น Quality and Patient Safety พร้อมเดินหน้ากระบวนการรับรองคุณภาพ ครอบคลุม “3 P Safety” Patient-Personnel-People สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน) หรือ สรพ. กล่าวเปิดม่านการประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum ครั้งที่ 25 ภายใต้ธีม: "BUILDING QUALITY & SAFETY CULTURE FOR THE FUTURE SUSTAINABILITY" สร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัย ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม 2568 โดยร่วมกับประธานคณะทำงานประสานงานบริหารศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล และผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล (Hospital Accreditation Collaborating Center: HACC) ทั้ง 9 แห่ง พร้อมทั้งเชิญชวนร่วมกิจกรรมถ่ายภาพ สัญลักษณ์ของ “ผีเสื้อ” แสดงถึงการบ่มเพาะ เติบโต กระจายพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงไปทั่วทั้งแผ่นดิน

D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_02_0_0

พญ.ปิยวรรณ กล่าวเปิดม่านการประชุมฯ ว่า การประชุมครั้งนี้ได้ชูสัญลักษณ์ “ผีเสื้อ” เพื่อแสดงเห็นถึงการเริ่มต้นจากไข่ กลายเป็นหนอน ดักแด้ และสุดท้ายกางปีกบิน สะท้อนถึงกระบวนการบ่มเพาะ การดูแลเอาใจใส่จนกลายเป็นสิ่งที่งดงาม เช่นเดียวกับการพัฒนาเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยที่ค่อยๆ เริ่ม จนขณะนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของสถานพยาบาล แต่ต้องควบคู่ทั้ง Quality and Patient Safety ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการรับรองคุณภาพของสรพ.

D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_10_0

D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_16_0_0

พญ.ปิยวรรณ กล่าวอีกว่า เรื่องความปลอดภัยในระบบบริการสุขภาพถูกให้ความสำคัญในระดับโลกตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 จากหนังสือของแพทย์ท่านหนึ่งเขียนถึงผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากความไม่พึงประสงค์ในโรงพยาบาลปีละเกือบแสนราย พบเป็นความไม่ปลอดภัยในระบบบริการสุขภาพ ไม่ได้เกิดจากบุคลากรสาธารณสุข ร้อนถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ณ ขณะนั้น ประกาศให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วย และสั่งให้มีการสร้างระบบบริการที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเกิดขึ้น กระทั่งที่ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก ล้อตามและกำหนดครั้งแรกให้ Quality of care เท่ากับ Patient Safety

“ประเทศไทยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยมาตลอด ไม่ใช่เพียง patient safety เท่านั้น แต่เรายังขยับทั้ง personal safety ให้ความสำคัญกับบุคลากร และ people safety โรงพยาบาลต้องดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่เรียกว่า 3P Safety (Patient-Personnel-People) ซึ่งเราทำตาม global agenda เพราะเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเป็นเรื่องระดับนานาชาติ ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการสร้างมาตรฐาน HA” พญ.ปิยวรรณกล่าว

พญ.ปิยวรรณ ยังเล่าย้อนถึงที่มาของการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยว่า ระบบบริการสุขภาพเกิดขึ้นย้อนหลังไปก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตั้งแต่สมัยของ ฮิปโปเครติส (Hippocrates) แพทย์ชาวกรีกโบราณ ผู้ซึ่งเป็นบิดาแห่งการแพทย์ นำการรักษาโรคแบบใหม่ ที่ต้องวินิจฉัยหาสาเหตุของโรค เพื่อการรักษาที่เหมาะสม แทนการรักษาที่เชื่อเรื่องเทพ วิญญาณ จนนำมาสู่ปฏิญาณอันเป็นจริยธรรมของแพทย์ เรียกว่า first, do no harm นี่คือจุดเริ่มของการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย จากนั้นช่วงคริสต์สตวรรษที่ 19 เป็นช่วงของบุคคลสำคัญในวงการพยาบาลช่วงสงครามไครเมีย คือ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล หรือ นางฟ้าไนติงเกล

D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_17_0_0

นางฟ้าไนติงเกล เป็นผู้เริ่มการจัดการสุขอนามัยในโรงพยาบาลค่ายทหารให้โล่ง มีสิ่งแวดล้อมที่ดี สะอาด เพราะพบว่า ปัญหาของโรงพยาบาลค่ายทหารมาจากสุขลักษณะไม่ดีพอ และยังศึกษาในเรื่องการดูแลรักษา ทำความสะอาดบาดแผล ลดการติดเชื้อ ลดการเสียชีวิต ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากร้อยละ 42 เหลือเพียงร้อยละ 2 ภายในเวลา 6 เดือน ชี้ชัดว่า ฮิปโปเครติส เป็นผู้เริ่มต้นวัฒนธรรมความปลอดภัย ส่วนนางฟ้าไนเติงเกล เริ่มต้นวัฒนธรรมคุณภาพ

หลังจากนั้นก็มีบุคคลสำคัญต่างๆ ได้สานต่อวัฒนธรรมความปลอดภัยและคุณภาพมากยิ่งขึ้น จนเริ่มรู้จักคำว่าการดูแลผู้ป่วยที่แบบ Patient Care Team หรือ PCT และก่อเกิด Hospital Standards ที่สำคัญยังเกิดองค์กรที่เรียกว่า The Joint Commission on Accreditation of Hospitals (JCAH) ตั้งแต่ปี 1951 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นการรับรองการปฏิบัติมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การพัฒนาคุณภาพต่างๆ อย่างของไทยมีตั้งแต่การรับรองคุณภาพระดับเบื้องต้น Quality 1.0 มาจนถึง Quality 2.0 มีการกำหนดตัวชี้วัด และขณะนี้ก้าวเข้าสู่ Quality 3.0

พญ.ปิยวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าสู่ Quality 3.0 นับตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 มีความมุ่งเน้นเรื่อง patient centered care โดยให้ประชาชนและผู้ป่วยมีส่วนร่วม และเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบสุขภาพ ซึ่งนับเป็นประเด็นท้าทาย เพราะการออกแบบต้องคำนึงถึงคนในอนาคต และต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่มีการกำหนดตัวชี้วัดเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพเพิ่มเติมเข้ามา โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนเข้าถึงระบบสุขภาพที่ดี ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

D19_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7_17_0_0

“ดังนั้น การพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าคิดว่า แค่การทำคุณภาพในโรงพยาบาล จะไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะความเป็นจริงไม่ว่าการพัฒนาจุดเล็กหรือจุดใหญ่ ล้วนมีความสำคัญยิ่งในระบบสุขภาพย่อมส่งผลต่อทุกภาคส่วน” ผู้อำนวยการสรพ. กล่าว

อนึ่ง ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล (Hospital Accreditation Collaborating Center: HACC) 9 แห่ง ประกอบด้วย 1.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 2.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล ภาคใต้ 3.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 4.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 6. ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล นครชัยบุรินทร์ 7.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล กรมแพทย์ทหารบก 8.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล อุบลมุกศรีโสธรเจริญ และ 9.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล ภาคตะวันออก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *