เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวถึงเหตุการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือ หลังจากที่ได้กำชับทุกหน่วยงานของกระทรวง พม. เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัดของภาคเหนือ และภาคตะวันเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ และอุดรธานี ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบถึง 23,842 ครัวเรือน ซึ่งตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยในขณะนี้ และได้กำชับให้ทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ล่าสุดได้รับรายงานว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัด พร้อมทีม พม. หนึ่งเดียวจังหวัดที่ได้รับผลกระทบลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยลงพื้นที่มอบชุดเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น พร้อมทั้งจัดตั้งโรงครัวเพื่อมอบอาหารแก่ผู้ประสบภัย และจัดกิจกรรมภายในศูนย์พักพิงต่างๆ
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงรายเกิดอุทกภัยจากน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 22 ส.ค. 67 ทำให้เกิดความเสียหาย 11 อำเภอ 33 ตำบล 264 หมู่บ้าน 5,615 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย เป็นเพศชาย 2 ราย อายุ 56 ปี และ 77 ปี เป็นเพศหญิง อายุ 51 ปี ทางจังหวัดเชียงรายได้มีการบูรณาการร่วมมือกันหลายหน่วยงาน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยได้ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ที่โรงเรียนเทศบาลตำบลเวียงเทิง โรงเรียนกิตติคุณเทิงวิทยา วัดเทิงเสาหิน และหอประชุม อบต.เวียง นอกจากนี้ กระทรวง พม. โดย ศรส. จังหวัดเชียงราย ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ดูแลประจำ 2 เขตที่รับผิดชอบ ได้แก่ เขตที่ 1 อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอเชียงของ ซึ่งมีปริมาณน้ำเยอะและท่วมสูงมาก และเขตที่ 2 อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย
นายวราวุธ กล่าวว่า ในขณะที่สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดแพร่ ระหว่างวันที่ 16 – 22 ส.ค. 67 ทำให้พื้นที่ในจังหวัดแพร่ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 อำเภอ 18 ตำบล 65 หมู่บ้าน และในจำนวนนี้ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 99 ครัวเรือน ในพื้นที่อำเภอร้องกวาง และอำเภอสอง ขณะเดียวกันทีม พม. หนึ่งเดียว จังหวัดแพร่ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย และลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ช่วยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทางทีม ศรส. จังหวัดแพร่ ได้ติดตามสถานการณ์พื้นที่อำเภอสอง และประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เพื่อร่วมกันช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ทั้งนี้ หากประชาชนประสบปัญหาอุทกภัย สามารถขอความช่วยเหลือ ได้ที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัด และสำนักงานพัฒนาสังคมและและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้รับรายงานจาก ศรส. จังหวัดน่าน ว่า จังหวัดน่านเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสร้างความเสียหาย 10,517 ครัวเรือน ในพื้นที่ 11 อำเภอ 56 ตำบล 259 หมู่บ้าน ทั้งนี้ จังหวัดน่าน ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งกระทรวง พม. โดย ศรส. จังหวัดน่าน หน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดน่าน และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จังหวัดน่าน เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ และร่วมกันลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ ศรส. จังหวัดน่าน หน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดน่าน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดชุดสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อเป็นถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย และได้ลงพื้นที่ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูไปที่อำเภอภูเพียง เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 100 ชุด อีกทั้งได้ร่วมกับ อบจ.น่าน จัดตั้งโรงครัวที่ อบจ.น่าน และร่วมกับเพจอีจัน และมูลนิธิเพชรเกษม จัดตั้งโรงครัว ที่วัดสวนตาล#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #น้ำท่วมภาคเหนือ #ช่วยเหลือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น