สแกนเนีย มองหลายปัจจัยบวกหนุนตลาดรถบรรทุก-บัส ปี 67 ฟื้น ล่าสุดกางแผนบุกตลาด 360 องศา รุกทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์

ตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ส่งสัญญาณฟื้น หลังแนวโน้มผู้ประกอบการต้องการรถบรรทุกและรถบัสเสริมทัพรับการฟื้นตัวในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งส่งออก ท่องเที่ยว ขนส่ง ด้านสแกนเนีย ค่ายรถใหญ่สวีเดน สบช่องกางแผนบุกตลาด 360 องศา รุกทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งรถบรรทุกและรถบัส เสริมทัพด้วยบริการสแกนเนียไฟแนนซ์ และงานบริการหลังการขาย คาดปี 2567 กวาดยอดรวม 495 คัน มั่นใจครองตำแหน่งอันดับหนึ่งรถบรรทุกและรถบัสค่ายยุโรปต่อเนื่อง 8 ปีซ้อน

นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขาย และกลยุทธ์ประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถบรรทุกและรถบัสของไทยปี 2567 ว่า ปีนี้จะเป็นปีของการฟื้นตัวอย่างแท้จริงของตลาด โดยจะได้รับปัจจัยบวกจากหลายอุตสาหกรรมที่มีสัญญาณดีขึ้น ทั้งการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ การส่งออกที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน และคาดว่าจะเติบโตได้ 2-3% ในปี 2567 ผลบวกดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อภาคขนส่งที่จำเป็นต้องใช้รถบรรทุก ส่วนตลาดรถบัสก็ได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนมกราคมที่สูงถึง 3 ล้านคน และมีเป้าหมายทั้งปีถึง 35 ล้านคน ผลของการฟื้นตัวที่เห็นเป็นรูปธรรมได้สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการรถขนส่ง รถบรรทุกและรถบัสในการเพิ่มจำนวนรถ เพื่อรองรับการฟื้นตัวและการเติบโตที่จะเกิดขึ้น

ส่วนของ สแกนเนีย นั้น ได้รับสัญญาณบวกมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา (2566) โดยสะท้อนออกมาในภาพรวมการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 7.% แบ่งเป็นรถบรรทุกหัวลาก 240 คัน และรถบัส 35 คัน ครองส่วนแบ่งรถบรรทุกและรถบัสสัญชาติยุโรปมากถึง 70% ถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของฝั่งรถยุโรป สวนทางกับภาพรวมของตลาดรถบรรทุกที่จดทะเบียนลดลงถึง 9% สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 นั้น สแกนเนียมีการวางแผนรุกตลาดแบบ 360 องศา ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งรถขนส่งและรถโดยสาร พร้อมจัดตั้งทีมขายที่เตรียมบุกทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งในกลุ่มรถบรรทุกจะเน้นไปที่ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่มีความต้องการสูงและคาดว่าจะมีการฟื้นตัวก่อน คือ กลุ่มรถขนส่งเชื้อเพลิงปิโตเลียม น้ำมัน วัตถุอันตราย กลุ่มที่สองคือขนส่งสินค้าทั่วไปหรือตู้คอนเทนเนอร์ (General Cargo) กลุ่มที่สามกลุ่มขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับสินค้าแบบแช่เย็นหรือแช่แข็ง (Temperature Control) และกลุ่มขนส่งสินค้าที่น้ำหนักมากหรือมีโครงสร้างขนาดใหญ่ (Heavy Haulage) โดยทั้ง 4 กลุ่มเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่วนกลุ่มรถโดยสารจะเน้นไปในตลาดรถเพื่อการท่องเที่ยว ที่ผู้ประกอบการมีความต้องการรถเพิ่มเพื่อใช้บริการนักท่องเที่ยวมากขึ้น

นอกจากนั้น สแกนเนีย ยังมีอาวุธลับสำคัญอีกหลายอย่างในการสนับสนุนการตลาดให้ประสบความสำเร็จ อาทิ สแกนเนีย ไฟแนนซ์ หรือ บริการด้านสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ที่จะช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของรถสแกนเนียได้ง่ายขึ้น สำหรับความพิเศษของ สแกนเนีย ไฟแนนซ์ นอกจากจะลดความยุ่งยากด้านเอกสารการขอสินเชื่อแล้ว ยังสามารถออกแบบแพ็คเกจด้านระยะเวลาและการผ่อนชำระให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้ และยังมีส่วนของรถบรรทุกมือสอง (Scania Used Trucks) ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนรถสแกนเนียเดิมเป็นรถใหม่หรือรุ่นใหม่ โดยรถสแกนเนียมือสองที่รับเข้ามาจะมีการตรวจเช็คสภาพและบำรุงรักษาอย่างระเอียดตามมาตรฐานของสแกนเนีย ก่อนจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจรถบรรทุกมือสองที่มีสภาพการใช้งานได้ดี พร้อมมีการรับประกันคุณภาพอะไหล่ รวมถึงยังมีบริการหลังการขายที่มีมาตรฐานสากล อะไหล่แท้และงานศูนย์บริการที่ปรับตัวปรับราคามาให้จับต้องง่ายขึ้น ให้รถขนส่งมีความพร้อมอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ยาวนานสูงสุด เพิ่มโอกาสทำกำไรธุรกิจให้ผู้ประกอบการขนส่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้ยังเป็นปีแห่งการท้าทายในการเปลี่ยนผ่านจากรถมาตรฐานปล่อยไอเสียยูโร 3 (EURO 3) ไปสู่ ยูโร 5 (EURO 5) ตามกำหนดของกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดให้รถผลิตใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ต้องมีมาตรฐาน ยูโร 5 โดย สแกนเนีย เป็นหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องยนต์จากประเทศสวีเดน ซึ่งมีการพัฒนาและใช้รถในมารตฐาน ยูโร 5 มากว่า 15 ปี และพัฒนาไปถึง ยูโร 6 มาแล้วมากกว่า 10 ปี ทำให้มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมนำรถบรรทุกและรถบัสที่มีเครื่องยนต์ใหม่ ยูโร 5 ซึ่งมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นยอดมาเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ส่วนรถบรรทุก ยูโร 3 ของ สแกนเนีย ที่เหลืออยู่ในประเทศไทยขณะนี้มีอยู่ไม่มากและเป็นโอกาสสุดท้ายของผู้ต้องการรถบรรทุก ยูโร 3 ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในตลาดที่ทำให้สแกนเนียเป็นแชมป์รถบรรทุกค่ายรถยุโรปที่มียอดขายสูงสุดถึง 7 ปี

สำหรับเป้าหมายการขายรวมของสแกนเนียในปีนี้อยู่ที่ 495 คัน เป็นรถบรรทุก 435 คัน และรถบัส 60 คัน ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการดำเนินแผนการตลาดแบบฟังเสียงลูกค้า และบริการครบวงจรที่วางไว้จะสามารถขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการขนส่งมามีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น กำไรได้ดีขึ้น เพราะสแกนเนีย มองธุรกิจลูกค้าสำคัญที่สุด ความสำเร็จของลูกค้า ก็คือความสำเร็จของสแกนเนีย และเมื่อทำให้ลูกค้าสำเร็จในธุรกิจขนส่ง การเป็นแชมป์รถบรรทุกและรถบัสค่ายยุโรปต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ของสแกนเนีย คงไม่เกินความคาดหมายอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ สแกนเนียยังคงเดินหน้าแนวคิดธุรกิจสู่การขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) ในทุกส่วนของสแกนเนีย คู่ค้า ลูกค้า สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม