รมว.พม. ปาฐกถา “เยาวชน อนาคตของประเทศไทย และความมั่นคงของมนุษย์” เวที พสบ.บก.ทท. ชี้ สถาบันครอบครัว คือฟางเส้นสุดท้ายของสังคมไทย ยกตัวอย่าง หีบเหล็กถ่วงน้ำ แนะวิธีแก้ปัญหาสังคมก้มหน้า เห็นใจลุงพิการขายลอตเตอรี่เข็นวีลแชร์หงายท้องหัวฟาดพื้น ที่มาบตาพุด ระบุ สังคมต้องให้โอกาสกลุ่มเปราะบาง
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปาฐกถาหัวข้อ “เยาวชน อนาคตของประเทศไทย และความมั่นคงของมนุษย์” แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาความสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (พสบ.บก.ทท.) รุ่นที่ 15 โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า งานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นงานที่ละเอียดอ่อน 100 คน ก็ 100 วิธีแก้ ความมั่นคงของมนุษย์นั้น ไม่เพียงแค่เรื่องความปลอดภัย แต่เป็นเรื่องของอนาคตและโครงสร้างประชากรของประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ สังคมไทยกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แบบ และสาเหตุหนึ่งคืออัตราเด็กเกิดใหม่น้อยลงมากไม่ถึง 5 แสนคน ตรงกันข้ามกับผู้สูงอายุหรือผู้มีประสบการณ์ ที่มีมากขึ้น ดังนั้น เราจะทำอย่างไรกับเด็กที่เกิดน้อยลงนี้ให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ และหาวิธีให้เด็กเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น พัฒนาเด็กและเยาวชน ถือเป็นภารกิจที่สำคัญ คงไม่มีประเทศใดปฏิเสธว่า อนาคตของเยาวชนและแนวทางการพัฒนาเขาเหล่านั้น เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นต่อความมั่นคงของประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มียุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาโครงสร้างทรัพยากรมนุษย์ โดยมีเป้าหมายพัฒนาในทุกมิติ เพื่อให้เป็นพลเมืองของศตวรรษที่ 21 เป็นพลเมืองของโลก ไม่เพียงเป็นประชากรของไทยเท่านั้น
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ตนเป็นคนที่ชอบลงมือทำมากกว่า ซึ่งมนุษย์เราทุกวันนี้จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางเด็กและเยาวชนที่จะต้องเติบโตขึ้นมา และต้องพบเจอปัญหาหลากหลาย แต่ต้องอยู่ให้ได้ท่ามกลางสภาวะโลกที่เปลี่ยนไป ภารกิจของกระทรวง พม. คือ การปรับตัวของมนุษย์ ดูแลกลุ่มเปราะบางที่เป็นเด็กและเยาวชน พัฒนาศักยภาพคนให้มีความมั่นคงและเติบโตขึ้นมาในสังคม และต้องพัฒนาศักยภาพของคนให้เท่าทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น ที่สำคัญคือ ต้องพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว
นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า สถาบันครอบครัววันนี้ เป็นฟางเส้นสุดท้ายของสังคมไทย “อย่างที่ทุกคนได้เห็นข่าวแล้ว ที่ลูกชายเอาพ่อและน้องสาวเข้าไปในหีบเหล็กแล้วถ่วงน้ำ ถามว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ถ้าแก้ปัญหา คงแก้ไม่ได้ แต่เราต้องป้องกัน ด้วยการมีสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น เราจะทำอย่างไรที่ไม่ให้เวลาพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน แล้วทุกคนต่างถือมือถือ เรียกได้ว่ากินข้าวด้วยกัน แต่ไม่ได้กินด้วยกัน ต่างคนต่างมีโลกของตัวเองแล้วก้มหน้า อย่างตัวผมเอง เวลาทานข้าวกับครอบครัวที่บ้าน ผมจะขอเก็บมือถือของสมาชิกทุกคนก่อน การสร้างครอบครัวไทยให้อบอุ่น พ่อแม่ลูกต้องพูดคุยกันมากขึ้น พูดคุยสอบถามทำงานเหนื่อยไหม สร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะปกป้องสังคมไทยเอาไว้“
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคนพิการ เราต้องดึงศักยภาพของคนพิการออกมา เพราะคนพิการไม่ใช่คนด้อยโอกาส เพียงแต่สังคมในวันนี้ ยังไม่ได้หยิบยื่นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้ เช่นกรณี เมื่อเช้านี้มีการนำเสนอข่าวชายสูงวัยขายลอตเตอรี่นั่งวีลแชร์เข็นลงฟุตบาทแล้วหัวฟาดกลางถนน ที่มาบตาพุด จ.ระยอง นั้น น่าเห็นใจมาก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่า ไม่ใช่ความผิดของคนนั้น แต่เป็นสิ่งที่สังคมให้โอกาสแก่คนพิการในการทำงาน ดังนั้น หากเราสามารถดึงศักยภาพ เพิ่มสิ่งที่จำเป็นให้กับกลุ่มที่เปราะบาง เราจะได้บุคคลที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น #ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #วราวุธศิลปอาชา #รมวพม #ผู้สูงอายุ #คนพิการ #กลุ่มเปราะบาง #วปอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น