ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เซ็น MOU กับ หจก.โตโก ดีเวลลอปเมนท์ ทำวิจัยจากข้อมูลหลังบ้านของ ToKo SuperApp เพื่อนำผลที่ได้มาพัฒนาต่อยอดให้แอปฯมีความสมบูรณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้งานสูงสุด อธิการบดีฯ ระบุนักศึกษาได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงทางอ้อมสามารถหารายได้ผ่านแอปฯ และสะสมประสบการณ์เพิ่มพูนทักษะก่อนจบไปทำงานจริง ขณะที่ผู้บริหารหจก.โตโกฯ ย้ำ ToKo SuperApp แตกต่างจากแอปฯอื่นสิ้นเชิง เพราะแสดงผลแบบเรียลไทม์ แถมเรียกเก็บค่า GP ต่ำ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ค่ารายย่อยเหลือกำไรใช้ต่อยอดธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้องประชุมรพีพัฒน์ อาคารพีพัฒนศักดิ์ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พ./RMUTP) มีพิธีลงนามความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โตโก ดีเวลลอปเมนท์ เพื่อร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน ToKo SuperApp (โตโก ซูเปอร์แอป) แอปของคนไทยที่รวมทุกความต้องการด้านปัจจัยสี่เอาไว้อย่างครบถ้วนในแอปเดียวไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่พัก บริการรถรับ-ส่ง การค้าและการบริการด้านต่างๆ โดยมีผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ และผู้บริหารของ หจก.โตโกฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน
ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กล่าวหลังการลงนาม MOU ว่า ToKo SuperApp เป็นแอปฯที่ให้บริการหลากหลายครบวงจร ทำให้มีข้อมูลหลังบ้านจำนวนมากถือเป็นบิ๊กดาต้า (Big Data) ที่สำคัญสามารถนำไปต่อยอดได้ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะเข้าไปใช้ข้อมูลนี้ทำการวิจัยเพื่อนำสิ่งที่ได้มาใช้พัฒนาแอปฯให้สมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลและผลวิจัยที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย
พร้อมระบุว่า จากความร่วมมือครั้งนี้มหาวิทยาลัยจะได้ประโยชน์ในการทำงานวิจัย ขณะที่ หจก.โตโกฯ ก็จะนำผลที่ได้ไปใช้พัฒนาแอปฯ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้บริการต่อไป ทั้งนี้นอกจากประโยชน์จากงานวิจัยแล้ว นักศึกษาก็จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย ทั้งในมุมของผู้ใช้บริการแอปฯ เพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเป็นผู้ขายสินค้าและบริการผ่านแอปฯได้ ซึ่งจะทำให้ได้รับประสบการณ์ตรงจากการทำการค้าจริงผ่านแอปฯ เป็นการเสริมทักษะความรู้ก่อนจบไปทำงาน และยังทำให้เกิดรายได้ระหว่างเรียนได้อีกด้วย
ด้านนายทศพร จุลโพธิ์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด โตโก ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นชองความร่วมมือที่จะจุดประกายให้เกิดพัฒนาต่อไป โดย ToKo SuperApp เกิดจากความตั้งใจที่จะขจัดปัญหาต่างๆจากการใช้แอปฯ อื่นๆที่มีอยู่ให้หมดไป ด้วยการ ToKo SuperApp ด้วยการนำเอาสินค้าและบริการต่างๆมารวมเอาไว้ให้ครบจบในที่แอปฯเดียว จึงมีความแตกต่างจากแอปฯอื่นๆ เพราะ ToKo SuperApp เป็นแอปฯ ที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ ( real time ) พัฒนาโดยคนไทย
นายทศพร ได้ยกอย่างว่า เช่นการสั่งอาหารถ้าสั่งผ่านแอปฯอื่นอาจมีปัญหาได้รับอาหารช้าเพราะไรเดอร์อาจรับออเดอร์ ( order ) ซ้อนพร้อมกันทำให้ต้องรอ แต่ Toko superapp จะแสดงผลให้ลูกค้าเห็นว่ามีไรเดอร์คนไหนรออยู่ที่หน้าร้านอะไรบ้าง และสามารถเลือกไรเดอร์ได้เอง จึงเป็นการรับออเดอร์แบบ เคส บายเคส ( case by case ) ทำให้ลูกค้าไม่ต้องรออาหารนานเหมือนสั่งผ่านแอปฯอื่น หรือกรณีไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็สามารถกดดูข้อมูลได้เลยว่าบริเวณที่เราอยู่มีร้านอาหารที่ไหน มีที่พักที่ไหน เมื่อเลือกได้แล้วก็สามารถกดสั่งผ่านแอปฯ ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้าแอปฯทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างมาก
" ที่สำคัญคือ ToKo SuperApp พัฒนาโดยคนไทยครับ เรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนผู้ค้ารายเล็ก รายย่อย หรือ เอสเอ็มอี ให้มีช่องทางเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเราจึงเรียกเก็บค่า GP ( Gross Profit ) หรือ ส่วนแบ่งหรือค่าคอมมิชชันที่ร้านค้าจ่ายให้แก่แอปพลิเคชันในอัตราต่ำเพียง 1-15 % เท่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าหรือบริการและขนาดธุรกิจ เราต่างจากแอปฯอื่น ที่เรียกเก็บค่า GP สูงถึง 30-35% ทำให้ผู้ค้าแทบไม่เหลือกำไรไปเป็นทุนต่อยอดทางการค้าหรือพัฒนาธุรกิจได้ " นายทศพร กล่าวพร้อมระบุว่า หจก.โตโกฯ มีความพร้อมที่จะเปิดรับความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแอปฯของเรา เปรียบเสมือนว่าตอนนี้เราสร้างบ้านหลังใหญ่ที่มีความพร้อมทุกด้านเอาไว้แล้วเพียงท่านเข้ามาสร้างห้องของตัวเองในบ้านของเราเพื่อเติบโตไปด้วยกันโดยที่ท่านไม่ต้องไปลงทุนพัฒนาแอปฯเอง
สนใจสมัครเป็น Partner กับ ToKo SuperApp ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.tokosuperapp.com/ และติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟสบุ๊ก ToKo SuperApp& ซุปเปอร์แอพ : https://www.facebook.com/deliverypakchong/
สามารถโหลด ToKo SuperApp ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ iOS และAndroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น