เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 66 เวลา 16.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2566 (International Day of Older Persons 2023) ภายใต้แนวคิด “ชาญชาลา : คนต่างวัย หัวใจเดียวกัน Across Generations” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน Ms. Gita Sabharwal UN Resident Coordinator คณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง)
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้สูงอายุกว่า 12 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 19.77 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดัยสุดยอด ดังนั้น การสร้างความเข้าใจระหว่างคนต่างวัย ให้รับรู้ถึงความแตกต่างและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนั้น นับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราจึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้าง “พื้นที่แห่งความสุข”และร่วมกันส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็น “พฤฒิพลัง” หรือ Active Aging เพื่อดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม โดยไม่มีอายุเป็นข้อจำกัด ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) จึงได้จัดงานมหกรรมวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “ชาญชาลา : คนต่างวัย หัวใจเดียวกัน Across Generations” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดวันผู้สูงอายุสากล ปี พ.ศ. 2566 “Fulfilling the Promises of the Universal Declaration of Human Rights for Older Persons: Across Generations” คือ “บรรลุคำมั่นสัญญาแห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้สูงอายุและคนต่างรุ่นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกัน และขจัดปัญหาความแตกต่างระหว่างคนต่างวัย รวมถึงการไม่เลือกปฏิบัติและการส่งเสริมความเสมอภาคของทุกคน”
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า งานมหกรรมฯ ครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจในบรรยากาศวันวานย้อนยุค ประกอบด้วย 1) การประกาศเจตนารมณ์วันผู้สูงอายุสากล 2) การแสดงนิทรรศการวิชาการ 3) ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ เช่น น้ำตาลสด ไอศกรีมข้าวลูกชิ้นเห็ดภูฐาน ข้าวเหนียวหมู และขนมไทยโบราณ เป็นต้น 4) การถ่ายทอดภูมิปัญญาผู้สูงอายุกับคนต่างวัย เช่น โมบายรังผึ้งและสานปลาตะเพียน 5) การแสดงดนตรี โดยวงดุริยางค์ทหารบก 6) รำวงย้อนยุค และ 7) การแสดงชุดพิเศษ Across Generations เพลง "ฟังข่าวทิดแก้ว" เพื่อเป็นการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้สังคมได้เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยการเคารพและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขของคนต่างวัยที่มีหัวใจเดียวกัน การสร้างสัมพันธภาพที่ดีงาม และการมีส่วนร่วมของคนต่างวัยในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงได้ยึดโยงให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ เป็นวันผู้สูงอายุสากลที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดขึ้น และประเทศไทยได้สานต่อ ซึ่งต้องเรียนว่า ต่อจากนี้ไป ผู้สูงอายุทุกท่านจะเป็นพลังสำคัญ ท่านไม่เป็นภาระหรือผู้ไม่มีศักยภาพ เพราะทุกท่านผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมาย ล้วนมีศักยภาพที่พร้อมจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของสังคมไทย ดังนั้น เนื่องในวันผู้สูงอายุสากล กระทรวง พม. จึงร่วมเฉลิมฉลอง และจากนี้ไป จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้สูงอายุในประเทศไทยให้เป็นกลุ่มคนที่เป็นกำลังหลักคอยสนับสนุนคนรุ่นต่างๆ ในสังคมไทย ซึ่งคนทุกๆ กลุ่ม จะต้องเดินไปด้วยกัน ทั้งนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูงอายุทุกท่านได้ใช้ชีวิตสูงวัยได้อย่างมีความสุข และกระทรวง พม. จะขับเคลื่อนนโยบายด้านผู้สูงอายุ ด้วยศูนย์บริบารผู้สูงอายุในชุมชนที่ตั้งเป้าจะให้ลูกหลานกลับมาดูแลคนในชุมชนของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้สูงอายุหลายๆ ท่าน มีความสบายใจ และจะเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อีกทั้งทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขทั้งสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และเติบโตไปด้วยกันกับทุกช่วงวัย
“วันนี้เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ได้เห็นความสนุกสนาน พลังแห่งความสร้างสรรค์ ถึงแม้ว่าจะสูงวัย แต่ไม่ได้อ่อนแรง ซึ่งรู้สึกภาคภูมิใจที่เห็นทุกท่านแข็งแรง และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ รวมทั้งเป็นเข็มทิศให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป” นายวราวุธ กล่าวในตอนท้าย #ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #กระทรวงพม #รมวพม #รับฟังทำจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น