ช่อง 3 จับมือ Mediacorp ส่งละครดังกว่า 600 ชั่วโมง ออนแอร์สิงคโปร์ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ช่อง 3 จับมือ Mediacorp ส่งละครดังกว่า 600 ชั่วโมง ออนแอร์สิงคโปร์


บมจ. บีอีซี เวิลด์ หรือ ช่อง 3 และ Mediacorp สื่อโทรทัศน์ระดับประเทศและผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ได้บรรลุข้อตกลงนำคอนเทนต์ละคร ช่อง 3 ยกแพ็คมากกว่า 600 ชั่วโมง ไปออนแอร์ที่ประเทศสิงคโปร์ อาทิ “พรหมลิขิต” (Love Destiny 2) “บุพเพสันนิวาส” (Love Destiny) “ให้รักพิพากษา” (Dare to Love) “มนต์รักหนองผักกะแยง” (To Me, It’s Simply You) และ “นาคี” (Nakee) โดยรับชมผ่านบริการดิจิทัลวีดีโอ mewatch ซึ่งผู้ชมสิงคโปร์สามารถรับชมได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ละครบางเรื่องจะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน Channel U อีกด้วย

Mediacorp เป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นทั้งสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ ที่มีสมาชิกเข้าชมคอนเทนต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อวัน มีบริการภาษาถึง 4 ภาษา บนแพลตฟอร์มดิจิทัลหลายช่องทาง อาทิ mewatch, melisten และ CNA.asia โดย Mediacorp ยังเป็นเจ้าของช่องทีวี 6 ช่อง และสถานีวิทยุ 11 สถานี จึงเป็นผู้นำด้านการเสนอคอนเทนต์ของสิงคโปร์ ที่มีฐานคนดูจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้ซื้อลิขสิทธิ์ละครไทยจาก ช่อง 3 ไปออกอากาศมากกว่า 600 ชั่วโมง


ในการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จาก ช่อง 3 ทาง Mediacorp ได้พิจารณาเลือกจากกระแสของละครที่ได้รับความนิยมสูง โดยนำเสนอในสองภาษาทั้งภาษาจีนและภาษาไทย อย่างละครใหม่ล่าสุดที่ Mediacorp จะออกอากาศในสัปดาห์เดียวกันกับประเทศไทยคือ “พรหมลิขิต” (Love Destiny 2) ภาคต่อของละคร “บุพเพสันนิวาส” นำแสดงโดย “โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” และ “เบลล่า ราณี แคมเปน” ซึ่งนักแสดงทั้งสองได้กลับมารับบทใหม่ในภาคต่อ โดยครั้งนี้ “โป๊ป” ต้องแสดงถึง 3 ตัวละคร ทั้งบท “พระยาวิสูตรสาคร” (พ่อเดช) และลูกชายฝาแฝด ชื่อ “ริด” และ “เรือง” ส่วน “เบลล่า” รับบทเป็น “คุณหญิงการะเกด หรือ เกศสุรางค์” และ “พุดตาน” นางเอกของเรื่อง

ตามมาด้วยละครหลายเรื่องที่ทำเรตติ้งสูงของ ช่อง 3 เมื่อครั้งออกอากาศ ซึ่งรวมถึงละคร บุพเพสันนิวาส (Love Destiny) ที่ได้รับความนิยมโด่งดังไปทั่วโลก จนกลายเป็นละครในตำนานที่ถูกเรียกร้องให้สร้างภาคต่อและเคยออกอากาศทางฟรีทีวี Mediacorp และ mewatch มาก่อนแล้ว โดยพากย์เสียงเป็นภาษาจีน เรื่องต่อมาคือ “ให้รักพิพากษา” (Dare to Love) เรื่องราวของความขัดแย้งระหว่างความรักและความมุ่งมั่นทะเยอทะยานของทนายสาวไฟแรง รับบทโดย “เบลล่า ราณี แคมเปน” ประกบพระเอก “กองทัพ พีค” ต่อด้วยละครที่นำเสนอเสน่ห์แห่งชนบท วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านหนองผักกะแยง อย่าง “มนต์รักหนองผักกะแยง” (To Me, It’s Simply You) นำแสดงโดย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “โบว์ เมลดา สุศรี” และสุดท้ายกับละครเรื่อง “นาคี” (Nakee) เรื่องราวความเหนือธรรมชาติและความรัก นำแสดงโดย “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” และ “เคน ภูภูมิ” ทั้งหมดนี้คือปรากฏการณ์ใหม่ที่คนดูในประเทศสิงคโปร์จะได้รับชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป


จากความร่วมมือในครั้งนี้ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรทัศน์ ได้กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ Mediacorp ครั้งนี้เป็นการนำละครคุณภาพของประเทศไทยเพื่อออกอากาศให้ชาวสิงคโปร์ได้รับชม ซึ่งความร่วมมือนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงถึงศักยภาพของช่อง 3 ในการส่งออกคอนเทนต์ละครคุณภาพไปต่างประเทศ แต่ยังเป็นการตอกย้ำการส่งออกวัฒนธรรมของไทยผ่านละครให้กับผู้ชมชาวสิงคโปร์ได้รับรู้ ถือเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศผ่านตัวละคร”

ส่วนทางด้านคุณ Lee Hung Sheng, Head, Audience & Partnerships ของ Mediacorp ได้กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “พวกเรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ BEC World ซึ่งเป็นเหมือนแหล่งขุมทรัพย์ของละครไทย ที่โดดเด่นในด้านการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ และสอดแทรกเรื่องราวทางวัฒนธรรมเข้าไปด้วย ความร่วมมือนี้เป็นการย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะตอบสนองรสนิยมที่หลากหลายของผู้ชมในสิงคโปร์ ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ให้มากขึ้นบน mewatch และเราหวังว่าผู้ชมของเราจะมีความสุขกับละครเหล่านี้ สมกับความตั้งใจของพวกเราในการคัดสรรละครมาให้พวกเขา”​


จากการขยายตลาดคอนเทนต์ละครของ ช่อง 3 ไปสู่ชาวสิงคโปร์ผ่านสื่อทีวีใหญ่ระดับประเทศ อย่าง Mediacorp นอกจากจะเป็นการสานต่อเป้าหมายธุรกิจในการนำคอนเทนต์ละครไทยสู่ตลาดสากลแล้ว ยังเป็นความพยายามในการผลิตผลงานละครคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ละครรายใหญ่ ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ละครไทยได้เข้าถึงคนดูชาวสิงคโปร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น ได้เผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศไทย และจะทำให้นักแสดงไทย ได้รับการยอมรับมากขึ้นในกลุ่มผู้ชมชาวสิงคโปร์ต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น