เมื่อวันที่ 11 พค 66 พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงวันที่ 10-11 พค 66 ตำรวจท่องเที่ยวได้จัดให้มีการอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวขึ้น ซึ่งผู้มาสมัครทำหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในปีนี้ถึง 2,273 คน แบ่งเป็นคนไทย 2,092 คน และคนต่างชาติ 181 คนพล.ต.ต.อภิชาติฯ ในฐานะเป็นวิทยากรอบรมในโปรแกรมนี้ด้วยเปิดเผยว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวจากทุกสาขามาให้ความรู้กับอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทุกคน โดยการอบรมเป็นลักษณะออนไลน์ซึ่งสอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย
หลังจากเสร็จสิ้นการอบรม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้อาสาสมัครที่พร้อมเป็นผู้ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวมากกว่า 2,000 คน ซี่งจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้ไม่เพียงทราบประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวดีเท่านั้น ในส่วนของอาสาสมัครชาวต่างชาติ ยังสามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวด้วยภาษาต่างประเทศได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกและเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยมากยิ่งขึ้น
โฆษกกองบัญชาการตำรวจยังกล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเดินทางไปได้สวยงามและสร้างรายได้ให้ประเทศได้อย่างดีคนไทยทุกคนโชคดีที่เราที่เราได้รักษาและรังสรรค์ประเทศของเราจากรุ่นสู่รุ่น จนประเทศของเราเป็นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษา รวมไปถึงวัฒนธรรมประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใครทำให้ประเทศไทยมีเสน่ห์อย่างไม่รู้ลืมที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากที่ไหนเดินทางมา ก็ต้องกลับมาเที่ยวอีก จึงขอเรียนคนไทยทุกคนให้เกิดความภาคภูมิใจในประเทศและดินแดนของเรา
ขอบคุณคนรุ่นก่อนที่รักษาดินแดนแห่งนี้เอาไว้จนตกมาถึงคนรุ่นเรา ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวทุกคนจะช่วยกันรักษามรดกเหล่านี้ไว้ให้ตกไปถึงคนรุ่นต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งหากคนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ที่อบอุ่นด้วยแล้ว การท่องเที่ยวไทยจะสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศและประชาชนคนไทยทุกคนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อภิชาติฯ ยังกล่าวเสริมอีกว่า ปัจจุบันตำรวจท่องเที่ยวกำลังมีนโยบาย rebranding ตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้ภาพลักษณ์และการปฏิบัติงานสอดคล้องต่อบริบทโลกใหม่ให้มากที่สุด ซึ่งนโยบายดังกล่าวเน้นพิจารณาความคิดในลักษณะ outside-in จากบุคคลภายนอกที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพื่อผสมผสานกับภารกิจที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน โดยเชื่อว่า เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ ตำรวจท่องเที่ยวเป็นตำรวจท่องเที่ยวยุคใหม่ไฉไลกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น