กรุงไทยพานิชประกันภัย หรือ เคพีไอ พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 ภายใต้วิสัยทัศน์ ปี 2566 “Serving Friendly Insurance Services – ส่งมอบบริการประกันภัยที่เป็นมิตร” มุ่งสานต่อพันธกิจตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า สู่การเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการที่เข้าถึงง่าย สะดวก และรวดเร็ว พร้อมใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยสโลแกน “เคพีไอ ก้าวสู่อนาคต เพื่อโลก เพื่อคุณ” ตั้งเป้าปี 2566 เบี้ยประกันภัยรับรวม 5,526 ล้านบาท เติบโตปีละ 15% ต่อเนื่อง มุ่งสู่เบี้ยฯ หมื่นล้าน ติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัทประกันวินาศภัยในอีก 5 ปีข้างหน้า
ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2566 ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ Serving Friendly Insurance Services – มุ่งส่งมอบบริการประกันภัยที่เป็นมิตร โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างมีความใส่ใจต่อทุกภาคส่วน ทั้งต่อลูกค้า ผู้บริโภค (Customers / Consumers) ต่อพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partners) พนักงานและครอบครัว (Staff & Families) ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม (Community, Society, and Environment)
“ด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวที่จะทำให้บริษัทฯ ก้าวสู่ความสำเร็จและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันได้ โดยเฉพาะในธุรกิจประกันภัยที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายขึ้น จึงทำให้บริษัทต้องมีการวางแผนนโยบายด้านการตลาดต่างๆ การร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ตัวแทน นายหน้า เพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจให้เหมาะสม สู่การออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การบริหารเวลาและช่วยลดต้นทุนการทำงาน ผ่านโมเดลธุรกิจทั้งแบบ Offline to Online เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับลูกค้า ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย” ดร.พงษ์ภาณุ กล่าว
เคพีไอ ในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยสัญชาติไทยที่ดูแลและให้ความคุ้มครองกับลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องด้วยประสบการณ์ในด้านการรับประกันภัยมากว่า 70 ปี เผยข้อมูลผลประกอบการในปี 2565 บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 14,886 ล้านบาท รายได้ในส่วนของเบี้ยประกันรับรวมที่ 4,885 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 คิดเป็น 7.59% โดยมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 48.99% ประกันรถยนต์ 40.23% ประกันอัคคีภัย 10.46% และประกันภัยทางทะเล 0.32% มีกำไรสุทธิที่ 758 ล้านบาท ข้อมูลอ้างอิงสรุป ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565
“จากภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว บริษัทฯ มั่นใจว่าธุรกิจต่างๆ จะมีโอกาสที่จะปรับตัวและขยายตัวเติบโตตามเศรษฐกิจ ทำให้กำลังซื้อของภาคประชาชนเพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 5,526 ล้านบาท เติบโตขึ้นคิดเป็น 15% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา และบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่จะรักษาฐานการเติบโตของเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่องปีละ 15% ซึ่งจะทำให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ในปี 2570 บริษัทฯ คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตถึง 10,000 ล้านบาท จ่อขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 10 ลำดับแรกของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย” ดร.พงษ์ภาณุ กล่าว
โดยในปี 2566 นี้ เคพีไอ จะครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 จึงนับเป็นก้าวสำคัญ ที่จะเดินหน้าสานต่อการบริหารธุรกิจควบคู่กับการใส่ใจต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติให้เป็นไปตามแนวคิดของการพัฒนาที่ยั่งยืน ของบริษัท “Step for Tomorrow Sustainability เคพีไอ ก้าวอย่างมุ่งมั่นเพื่อวันข้างหน้าที่ยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับ 5 ด้าน ที่เป็นไปตามหลักสากล SDGs
1. Quality Education การส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ
2. Good Health & Well Being การส่งเสริมการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
3. Climate Action การรับมือกับภาวะโลกร้อน
4. Responsible Consumption & Production การผลิตและการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ
5. Reduce Inequality การลดความเหลื่อมล้ำและให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือผู้พิการ
“การดำเนินธุรกิจบนความท้าทายหลายด้าน นำมาซึ่งความเสี่ยงและโอกาส ดังนั้นเราต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การพัฒนาองค์กร
เคพีไอ สู่ความยั่งยืนจึงเป็น ‘เรื่องสำคัญ’ ที่เราจะต้องบูรณาการและขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม การเติบโตของธุรกิจนั้น นอกจากจะต้องมีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการจัดการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปีนี้จึงถือเป็นปีที่มีความท้าทาย แต่เคพีไอเราก็ยังมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยอีกมาก เราจึงพร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจ เพื่อส่งมอบบริการประกันภัยที่เป็นมิตรให้กับทุกคน” ดร.พงษ์ภาณุ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น