"ชูวิทย์ " เปิดตัว "Sky " พยานชาวสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน เล่าวันเกิดเหตุถูกตำรวจรีด 27,000 บาท - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

"ชูวิทย์ " เปิดตัว "Sky " พยานชาวสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน เล่าวันเกิดเหตุถูกตำรวจรีด 27,000 บาท

เป็นที่ฮือฮาอย่างยิ่งกับการแฉอย่างต่อเนื่องของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 ที่โรงแรมเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง นำมิสเตอร์สกาย (Mr.Sky) พยานชาวสิงคโปร์ เปิดแถลงข่าวเพื่อยืนยันว่า ตำรวจที่ตั้งด่านได้รีดไถเงินจำนวน 27,000 บาทจริง หลัง น.ส.อัน หยูชิง หรือชาร์ลีน อัน ดาราสาวชาวไต้หวัน วัย 32 ปี ออกมาเปิดเผยประสบการณ์การมาเที่ยวในเมืองไทยช่วงปลายปี 2565 ต่อต้นปี 2566 หรือช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้
โดยมิสเตอร์สกาย พยานชาวสิงคโปร์ ยืนยันว่า เป็นคนให้เงิน 27,000 บาท หลังถูกข่มขู่จากตำรวจในด่าน ขณะเกิดเหตุมีตำรวจ 3 นายที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจในเครื่องแบบได้เข้ามาพูดคุยว่า เขาไม่มีวีซ่าและพกบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยอมรับว่า ได้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาในราคา 800 บาท ที่ตลาดย่านห้วยขวาง ซึ่งตำรวจบอกว่า เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายไทยและต้องไปโรงพักถูกควบคุมตัว 2 วัน ตนไม่กล้าไป

จากนั้นมีการเจรจากัน แล้วตำรวจที่ใส่เครื่องแบบ ก็ไปถามตำรวจผู้ใหญ่ที่นอกเครื่องแบบ แล้วกลับมาบอกตนให้จ่ายเงิน บุหรี่ไฟฟ้า 8,000 บาท ที่เหลือเป็นค่าที่ไม่มีพาสปอร์ต 3 คน แล้วตำรวจก็บอกให้ตนนับเงิน ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่เข้าใจคำว่า "นับ" ขณะนั้นตนมีเงินติดตัวประมาณ 30,000 บาท ให้ไป 27,000 บาท เหลือแค่ 3,000 บาท
หลังจ่ายเงินให้ตำรวจที่ด่านตำรวจก็เรียกแท็กซี่ให้เพื่อเดินทางกลับ ซึ่ง มิสเตอร์สกาย บอกว่า พอเอาเงินให้ไปแล้ว ตัวเขาอยากจะออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ขณะนั้นเครียด ยืนยัน เพื่อนที่เป็นดาราไต้หวันสูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่วันนั้นไม่ได้พกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวดังกล่าว ได้มีตำรวจทีมชุดสืบสวนเข้ามาสอบปากคำพยานชาวสิงคโปร์คนนี้ บริเวณชั้นบนภายในโรงแรมเดวิส ขณะที่นายชูวิทย์ ยังได้เปิดเผยกระบวนการด่านรีดไถ เพราะบ่อนปิดเลยตั้งด่าน มีการวางแผนจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ส่งให้ใคร พร้อมเรียกร้องผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้คืนเงินและขอโทษผู้เสียหาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัวเป็นภาพที่เซลฟี่คู่กับชาวสิงคโปร์ พร้อมข้อความว่า "พยานอยู่ในความคุ้มครองของผมแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน แถลงบ่าย 2 โมง เราต้องทำให้ประเทศนี้ไม่มีคอรัปชั่น"

โดยก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ ได้โพสต์คลิปขณะโทรศัพท์คุยกับพยานชาวสิงคโปร์ ที่เป็นคนจ่ายเงินให้ตำรวจไทย กรณี อันยู่ชิง ดาราสาวชาวไต้หวัน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วอ้างว่าถูกตำรวจไทยขอค้นตัว รีดไถเงิน 27,000 บาท พร้อมแคปชั่น "คุยกับพยานคนสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ไม่คิดว่าจะเจอด่านตำรวจรีดไถแบบนี้ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ"

วันเดียวกัน (1 ก.พ.66 ) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดเผยกรณีดาราสาวชาวไต้หวัน ถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งด่านรีดทรัพย์ 27,000 บาท ว่า วันนี้พยานชาวสิงคโปร์ที่เป็นคนจ่ายเงินให้ตำรวจตั้งด่านในคืนวันเกิดเหตุเพราะถูกตำรวจขู่เข็ญ รีดไถ่ และไม่ใช่การให้สินบน ซึ่งพยานก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้แล้ว เขารู้สึกกลัวไม่ปลอดภัย ไม่ไว้ใจตำรวจไทย แต่ตนขอร้องให้เดินทางมาถึงประเทศไทย โดยตนเป็นคนจ่ายค่าเดินทางทั้งหมด เพราะเขาเป็นนักท่องเที่ยวเราต้องต้อนรับและกระทบเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ ไม่ใช่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เอาผิด ม.157 แค่เรื่องไม่จับบุหรี่ไฟฟ้า

นายชูวิทย์ เผยว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาจัดการเรื่องคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาดเพราะองค์กรตำรวจเละเทะ มีความพยายามตั้งแต่มีการเรียกพยานมาสอบสวน มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหรือไล่เรียงไทม์ไลน์ต่างๆ แต่จริงๆ ต้องตรวจสอบประเด็นการรีดไถ่นักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตนจะไม่พูดและให้พยานชาวสิงคโปร์พูดเอง แต่มีกติกาสื่อมวลชนต้องซักถามตอนแถลงข่าวเท่านั้นเพราะเขากลัวความปลอดภัย โดยจะเริ่มแถลงข่าวเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิง สุขุมวิท

“ขณะนี้พยานชาวสิงคโปร์พักอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ผม และเงินจำนวน 27,000 บาท ช่วยคืนเขาไปเถอะเพราะไม่ใช่เงินของกลาง หากตำรวจต้องการสอบปากคำก็ต้องมาหาเขาเอง ไม่ใช่ต้องไปหาตำรวจ และให้เอารูปตำรวจ สน.ห้วยขวาง มาด้วยเพราะเขาจำได้ โดยคนที่รับเงินเป็นตำรวจออกเวรแล้วแต่มีการพูดคุยกันกับคนในเครื่องแบบ และรายงานผู้บังคับบัญชาว่าราคาเท่านี้ตกลงไหม ซึ่งผมให้เวลาถึง 15.00 น. ถ้าไม่มาเขาก็บินกลับประเทศเลย”

นายชูวิทย์ ระบุว่า นอกจากนี้ ตนพร้อมเปิดเผยถึงขบวนการตั้งด่านรีดไถ่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ส่งเท่าไหร่และส่งให้ใครบ้าง ซึ่งพบว่าหลังจากบ่อนพนันปิดก็หันมาทำกันเช่นนี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น