โฆษก ตร.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ผบ.ตร.กำชับ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจ ของตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ ต้องมีมาตรฐาน เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่ ตร.สั่งการไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะประเด็น กล้อง Bodycam ของตำรวจ ในการตั้งด่านตรวจทุกครั้ง ตำรวจทุกนายต้องมี กล้อง Bodycam ทุกคนบันทึกภาพ และเสียงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ หากไม่มี Bodycam ห้ามไม่ให้มีการตั้งจุดตรวจ ที่สำคัญตำรวจทุกนายต้องสวมใส่เครื่องแบบในการตั้งจุดตรวจทุกครั้ง ต้องไม่มีตำรวจนอกเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจอย่างเด็ดขาด
การตั้งจุดตรวจต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคม เช่น จุดตรวจจราจร ต้องตั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ มีสถิติอุบัติเหตุรองรับชัดเจนว่าทำไมต้องตั้งจุดตรวจตรงนี้ เพราะอะไร สำหรับด่านอาชญากรรม ต้องตั้งเพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก ประชาชนร้องเรียนในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งการอนุมัติการตั้งจุดตรวจ เป็นอำนาจของผู้บังคับการขึ้นไปในการอนุมัติ ถ้าหากจุดตรวจไหน ไม่มีมาตรฐาน มีการเรียกรับผลประโยชน์ เบื้องต้นจะมีการลงโทษระดับหัวหน้าสถานีตำรวจที่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจในการตรวจสอบควบคุมดูแล และผู้บังคับการตามลำดับ หากไม่มีมาตรการควบคุม กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
โดย ผบ.ตร.กำชับไปยัง ผู้บังคับบัญชาระดับกองบัญชาการ,กองบังคับการ ต้องหมั่นลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในสังกัดอย่างจริงจัง ใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่ ตร.กำหนด หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย กระทำผิด จนเกิดความเสียหาย ต้องมีการดำเนินการเด็ดขาดทั้งวินัย อาญา และปกครอง รวมทั้งพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาด้วย
ทั้งนี้ ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ดูแลการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจ ของตำรวจในภาพรวมทั้งประเทศ วางระบบ ปรับปรุง รูปแบบแนวทางการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น