เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 66 เวลา 15.00 น. นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดเผยกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พามารดาของคนพิการออทิสติก ร้องสื่อผ่านรายการโหนกระแส เนื่องจากคนพิการถูกทำร้ายร่างกายจากสถานรับดูแลคนพิการในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้มอบหมายให้ นางพัชรมณฑ์ ปิติปัญญากุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการคนพิการ และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรีและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดนนทบุรี ณ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนพิการและครอบครัว จากการที่มารดาได้พาบุตรชาย (คนพิการ) อายุ 29 ปี เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากคนพิการถูกทำร้ายร่างกาย จิตใจ และเสรีภาพ
ข้อเท็จจริงเบื้องต้น คนพิการอายุ 29 ปี มีความพิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ เดิมคนพิการพักอาศัยอยู่กับมารดา ยาย และน้าที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการรักษาอาการและรับยาอยู่ที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี แต่เนื่องจากมารดาและน้า ได้ไปประกอบอาชีพและอยู่กับสามีชาวเยอรมัน ที่ประเทศเยอรมัน และคนพิการอยู่ประจำที่โรงเรียนสำหรับออทิสติก แต่เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องหาสถานที่ดูแลใหม่ ประกอบกับยายอายุมาก ไม่สามารถดูแลได้ มารดาจึงได้ให้คนพิการอยู่ในความดูแลของสถานที่ดูแลแห่งนี้มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2565 (ระยะเวลา 5 เดือน) โดยเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 35,000 บาท สำหรับสถานที่รับดูแลมีลักษณะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น มีเจ้าหน้าที่ดูแลจำนวน 5 คน มีผู้ที่รับดูแลไว้ประมาณ 5 คน ไม่ได้มีการจดทะเบียนในรูปแบบสถานรับดูแลเอกชนแต่อย่างใด
ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการดำเนินการเบื้องต้นไปแล้ว ดังนี้ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มอบหมายนายอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้เสียหาย และการจัดตั้งเป็นสถานที่ดูแลดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และออกหมายค้นโดยเร่งด่วนต่อไป 2) ด้านการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี หากรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน จะดำเนินกระบวนการพิจารณาและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป 3) สำหรับการดำเนินการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรีร่วมกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้แนะนำสิทธิและสวัสดิการของคนพิการให้กับมารดาและญาติรับทราบ ทั้งนี้ ในเรื่องการดำเนินคดี พม. สามารถสนับสนุนการจัดหาทนายความให้กับคนพิการได้ นอกจากนี้ได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเพื่อประสานความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล การพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพ ทักษะด้านสังคมและการทำงาน เพื่อให้คนพิการได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง มีอาชีพ มีรายได้ และอยู่กับครอบครัวและสังคมได้
และ 4) พม.ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการคุ้มครองและดูแลคนพิการ โดยได้จะร่วมกับสมาคม องค์กร และชมรมคนพิการ เร่งขับเคลื่อนการจัดทำระเบียบ หลักเกณฑ์ มาตรฐานและแนวทางในการดูแลคนพิการของสถานในลักษณะตามที่ปรากฏเป็นข่าว
หากพบเห็นคนพิการถูกล่วงละเมิด ถูกกระทำทารุณกรรม หรือคนพิการที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 หรือ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือดูแลอย่างทันท่วงทีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น