นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการ พอช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นโครงการบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร ซ.งามวงศ์วาน ซอย 59 (ชุมชนสามัคคีเวทสุนทร) เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผิดกฎหมายนั้น ขอชี้แจงว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการดังกล่าวเป็นกระบวนการของรัฐบาลที่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ไม่มีโอกาสพัฒนาที่อยู่อาศัย ได้มีโอกาสพัฒนาที่อยู่อาศัย นั่นคือ ให้ประชาชนที่รุกล้ำลำคลองได้ขึ้นมาอยู่ข้างบนอย่างถูกกฎหมาย มีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดความมั่นคงในชีวิต และมีการพูดถึงประเด็นว่าไม่มีการสำรวจความคิดเห็นของชุมชนในการทำโครงการบ้านมั่นคงนั้น กระบวนการดำเนินโครงการฯ มี หลายขั้นตอน ตั้งแต่การสำรวจข้อมูล โดยขั้นตอนสำคัญ คือ การประชุมกับพี่น้องประชาชนในการทำความเข้าใจร่วมกันในการกำหนดออกแบบที่อยู่อาศัยร่วมกัน เพื่อเป็นกระบวนการให้ชาวชุมชนได้ร่วมพูดคุยกัน และเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน
สำหรับประเด็นที่โครงการบ้านมั่นคงทำให้ทัศนียภาพคลองหายไปนั้น แต่เดิม คลองเปรมประชากรมีการรุกล้ำด้วยการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้าง เป็นความกว้างเฉลี่ย 18-20 เมตร หลังจากที่ดำเนินโครงการไปแล้ว ทำให้มีความกว้างไม่น้อยกว่า 25 เมตร และเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งผลให้ทัศนียภาพของคลองดีขึ้น อีกทั้งน้ำในคลองไหลสะดวกมากขึ้น ส่วนประเด็นการตรวจสอบสิทธิ์ในการสร้างบ้านเกินจำนวนที่เป็นจริง จาก 42 ครัวเรือน เป็น 101 ครัวเรือน ข้อเท็จจริงคือ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มีทั้งหมด 88 ครัวเรือน ซึ่งเป็นผู้ที่อาศัยในที่ดินเดิม จำนวน 97 ครัวเรือน และอีก 9 ครัวเรือน มาจากริมคลองใกล้เคียง เนื่องจากเดิมที่อยู่กันแบบแออัด จึงให้สิทธิ์เป็นครอบครัวขยาย ส่วนการหาประโยชน์ในที่ดินที่บอกว่าเป็นที่พัฒนาเศรษฐกิจ ขอชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของกรมธนารักษ์ ซึ่งได้ให้พี่น้องประชาชนได้เช่าอยู่อาศัยในราคาถูก ตารางวาละ 6 บาทต่อปี ทำให้ประชาชนได้ลดรายจ่าย มีรายได้ในการดูแลตนเองมากขึ้น นอกจากนี้ ประเด็นที่กล่าวหาว่าการสร้างโครงการบ้านมั่นคงทำให้น้ำท่วมนั้น ขอชี้แจงว่าโครงการฯ บริเวณวัดรังสิตนั้น เป็นพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ซึ่งหลังจากดำเนินโครงการแล้ว ได้มีการขยายความกว้างของคลองเป็น 25 เมตร ส่งผลให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น
#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น