นายจุติ กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการเลี้ยงดูบุตรหลาน โดยเฉพาะผู้ประสบปัญหาแม่เลี้ยงเดี่ยว และครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนชาวมุสลิม ให้มีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และทำให้ชุมชนเข้มแข็ง มีหลักศาสนาค้ำจุนให้ชุมชนและสังคมมีคุณภาพต่อไป
ซึ่งกระทรวง พม. พยายามจะจัดการแก้ปัญหาครอบครัวกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะว่าได้ถอดบทเรียนจากต่างประเทศมาว่า ถ้าครอบครัวไม่เข้มแข็ง และขาดการเอาใจใส่ลูกหลาน จะทำให้สังคมมีปัญหาได้ ดังนั้น ต้องไปจัดการกับปัญหาที่ต้นเหตุ คือ ทำอย่างไรที่จะสร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน ต้องมีความพร้อมก่อนมีครอบครัว และอย่าตั้งครรภ์ในวัยเรียน นอกจากนั้น จะต้องสร้างทักษะและองค์ความรู้ให้ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนที่ผิดพลาดไปแล้ว อย่าไปคิดที่จะจบชีวิตและท้อถอย เพราะชีวิตมีทางออกอยู่เสมอ
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ กระทรวง พม. ช่วยสร้างทักษะและโอกาสให้ชีวิตทุกคนอยู่ได้ด้วยความมั่นคง โดยบูรณาการกับทุกกระทรวงและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ วางแผนช่วยเหลือหลังคลอดลูกแล้ว เพื่อกลับไปเรียนหนังสือต่อ กระทรวงแรงงาน ช่วยเหลือเรื่องการประกอบอาชีพและต้นทุนเบื้องต้น ซึ่งกระทรวง พม. ได้มีการเจรจากับธนาคารของรัฐให้การสนับสนุนด้วย เพื่อให้ได้มีชีวิตที่สองที่มั่นคงกว่าเดิม ปัจจุบันพบว่า มีแม่เลี้ยงเดี่ยวที่อยู่ในทะเบียน จำนวน 150,000 คน แต่คาดว่ามีพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่ได้ลงทะเบียนประมาณ 500,000 คน โดยสิ่งที่กังวลในวันนี้ คือ ปัญหาเศรษฐกิจและโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้มีลูกหลาน จำนวน 3,500,000 คน ต้องอยู่ในความดูแลของญาติพี่น้องของพ่อแม่เด็ก ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยบูรณาการกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านการศึกษา สุขภาพ และการฝึกอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ #ช่วย24ชั่วโมง #ช่วย24ชม #ข่าวพม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น