เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) หัวหน้าอำนวยการด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ./หัวหน้าด้านข่าวสารและประชาสัมพันธ์ , พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.ศปก.ตร./หัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ฯ ปฏิบัติหน้าที่ ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก./รองหัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ร่วมกันเปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ศปอส.ตร.ได้นำเสนอคดีที่ควรเตือนภัยประชาชนในรอบสัปดาห์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 และวิธีป้องกันตัวเองจากภัยอาชญากรรมออนไลน์ดังกล่าว เพื่อเตือนภัยให้กับประชาชน โดยพบภัยที่ต้องเฝ้าระวังที่สำคัญ ดังนี้
# 4 กลโกงหลอกดูดเงินจากบัญชี
1.สร้างสถานการณ์ให้เหยื่อรู้สึกว่ามีความเร่งรีบ เล่นกับเวลา
2.เบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้โฟกัสสิ่งที่เรากำลังคลิก เช่น สื่อสารแบบมาตีสนิท
3. ใช้วิธีให้กลัว โทรเป็นคนรู้จัก หรือญาติ หลอกยืมเงินหลอกให้โอนเงินให้
4.โทรมาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสรรพากร หลอกให้กลัวจนต้องโอนเงิน
นอกจากนี้ในช่วงมกราคม-มีนาคมของทุกปี จะเป็นช่วงยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90/91) ซึ่งมิจฉาชีพมักจะใช้โอกาสในช่วงนี้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร โทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงหรือส่งข้อความหลอกให้กดลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิชันกรมสรรพากรปลอม อ้างว่าจะตรวจสอบรายได้หรือให้ชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว หลังจากนั้นจะทำการดูดเงินในบัญชี
ทั้งนี้ จริงๆแล้วกรมสรรพากรจะไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อทางโทรศัพท์หรือทางไลน์ เพื่อติดตามการชำระภาษี ตรวจสอบข้อมูลรายได้ หรือส่งลิงก์แอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดเพื่อให้ชำระภาษีแน่นอน โดยช่องทางยื่นแบบและชำระภาษีของกรมสรรพากร จะมีเพียง 2 ช่องทาง คือ 1. ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา 2. ระบบ E-Filing ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ดังนั้น หากมีใครส่งข้อความหรือโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาให้โหลดแอปเพื่อตรวจสอบภาษี อย่าโหลดเเอปพลิเคชันเด็ดขาด
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การย้ำเตือนดังกล่าวเป็นนโยบายและสั่งการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่ได้สั่งการให้เข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหวังว่าจะสามารถปราบปรามการกระทรวงปิดให้หมดสิ้นไปเพื่อความสุขของประชาชนและสังคมไทยอย่างแท้จริง
“อย่าลืมเข้าไปดูในเพจ https://www.facebook.com/PCTPOLICE แล้วร่วมกันแจ้งเบาะแสในการแสดงความผิดเป็นกองกำลังป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้หมดสิ้นไป” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น