กทม.เอาจริง! จัดตั้ง 2 ศูนย์ต่อต้านการทุจริตในองค์กร - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

กทม.เอาจริง! จัดตั้ง 2 ศูนย์ต่อต้านการทุจริตในองค์กร

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในมิติบริหารจัดการดี ข้อ 56 ลดเสี่ยงโกงผ่านความร่วมมือภาคีเครือข่ายประชาชน และข้อ 107 โปร่งใส ไม่ส่วย ด้วยเหตุนี้จึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) เพื่อเป็นหน่วยกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ฯ และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติการในการขับเคลื่อนการดำเนินการลงพื้นที่ในเรื่องพิเศษ (เฉพาะกิจ) ในการสอบสวนจับกุม ตลอดจนวางแผนจับกุม โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดย กทม. ได้จัดตั้งห้อง War Room ศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) ณ ห้องประชุมสำนักงาน ก.ก. 3 ชั้น 5


สำหรับวงจรการปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ขั้นตอนการรับเรื่องจากแหล่งข้อมูล ซึ่งมีการรักษาความลับโดยการจำกัดรหัสเข้าถึงข้อมูล ปิดรายชื่อ/ดัดแปลงรายชื่อผู้แจ้งเบาะแส สำหรับขั้นตอนปฏิบัติการจะมีการตรวจสอบข้อมูลการทุจริตเบื้องต้น และศูนย์ฯ จะมอบหมายเจ้าหน้าที่ กทม. ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ จากนั้นจะเป็นการสอบสวนขยายผล วางแผนจับกุม (ถ้ามี) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ตำรวจจาก บก.ปปป. และส่งต่อเพื่อดำเนินคดีอาญา พร้อมดำเนินการตามมาตรการทางการบริหารควบคู่กัน ซึ่งได้แก่ การย้ายออกจากพื้นที่โดยให้ประจำสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร หรือให้ช่วยราชการที่หน่วยงานอื่น และดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยสั่งพักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ในวันที่ 2 ก.พ. 66 ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยว่า กิจกรรมที่ส่อทุจริต มี 9 กิจกรรม ได้แก่ การจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับผลประโยชน์ การยักยอกเงินเก็บค่าธรรมเนียม ภาษีประเภทต่าง ๆ การนำทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ส่วนตัว การเบียดบังเวลาราชการไปทำธุรกิจส่วนตัว การจัดการฝึกอบรม สัมมนา และศึกษาดูงานที่เข้าข่ายการทุจริต การจ่ายเงินต่าง ๆ ที่เข้าข่ายการทุจริต การเบิกจ่ายค่าอาหารทำการนอกเวลาที่เข้าข่ายการทุจริต และการแสวงหาผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งมีหน่วยงานที่เสี่ยงต่อการทุจริต 4 สายงาน ได้แก่ สายงานโยธา สายงานเทศกิจ สายงานรายได้ และสายงานสิ่งแวดล้อมฯ

“กทม.มีความตั้งใจอย่างจริงจัง ประกาศเจตนารมณ์ที่จะไม่อ่อนข้อหรือผ่อนปรนให้กับการทุจริต มีการจัดการขั้นเด็ดขาดที่สุด ส่วนตัวมองว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการทุจริตนั้นเป็นปัจจัยบุคคล อยู่ที่คุณธรรม จริยธรรม จิตสำนึก ซึ่งถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรย้ำอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับความจริงว่าเกิดปัญหา จึงจะสามารถแก้ปัญหานั้นได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย

ทั้งนี้ หากต้องการร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแส สามารถแจ้งได้โดยตรงถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะ หัวหน้า ศปท.กทม. รองปลัดกรุงเทพมหานคร (นายเฉลิมพล โชตินุชิต) ในฐานะ หัวหน้า ศตท.กทม. และหัวหน้าสำนักงาน ก.ก. หรือผู้อำนวยการกองวินัยและเสริมสร้างจริยธรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์ ผ่านระบบ Traffy Fondue หรือทางไปรษณีย์ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เลขที่ 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2224 2963 หรือ 1555 และอีเมล anticorrupt.bma@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น