สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาล มาสู่การปฏิบัติ โดยมีนโยบายให้ดำเนินการปราบปรามทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ และเพิ่มความเข้มในการทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชนอย่างจริงจัง สืบสวนจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุนชน ขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายผู้ค้ารายสำคัญ และหากมีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ให้ทุกหน่วยดำเนินการขยายผล จับกุม ยึด อายัดทรัพย์สินเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกราย โดยดำเนินการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทางการเงินเพื่อหา ความเชื่อมโยงเครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อกำหนดเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนจับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายกลางและรายย่อยในพื้นที่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติ ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการให้สืบสวนขยายผลคดีรายสำคัญของตำรวจภูธรภาค 5 หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลาง รถยนต์ 3 คัน ยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จากนั้นจึงสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูลทางโทรศัพท์และเส้นทางการเงิน จนทราบว่ามีเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับตัวการสำคัญ เครือข่ายผู้ค้าระดับกลางและรายย่อยในชุมชน กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จึงได้กำหนด เปิดปฏิบัติการ “พิทักษ์ประชาปราบยาเสพติด 1/66”
เมื่อวันพุธที่ 11 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 91 จุด พร้อมกันทั่วประเทศ ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, สิงห์บุรี, สระบุรี, ลพบุรี, เชียงใหม่, นครสวรรค์, นครปฐม, สมุทรสงคราม, กาญจนบุรี, เพชรบุรี, และ สุพรรณบุรี โดยมีเป้าหมายจับ 10 หมายจับ ผลการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 20 คดี 21 ราย จับกุมตามหมายจับได้ 3 ราย ตรวจยึดยาเสพติด ยาบ้า 4,207 เม็ด, เคตามีน 3.63 กรัม และเห็ดขี้ควายแห้ง 797.8 กรัม นอกจากนี้ยังตรวจยึด เงินสด 8,800 บาท, รถยนต์ 3 คัน, ทองคำ 1 บาท, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, อาวุธปืน 6 กระบอก, กระสุน 139 นัด โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง และ สมุดบัญชีเงินฝาก 50 เล่ม(นำไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน) รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด 490,190 บาท
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ กล่าวหลังการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้สามารถตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนให้ได้ รวมทั้งให้นำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาไปวิเคราะห์ หากพบผู้ค้ารายใหม่ให้ทำการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ให้ทราบถึงขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำเข้าสู่การดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการบำบัดฟื้นฟู ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการขยายผลและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทุกเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการยึดอายัดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด หากประชาชนที่พบเห็นความผิดปกติ หรือมีเบาะแสของขบวนการค้ายาเสพติด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 ซึ่งข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปิดเป็นความลับ มีการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ กล่าวหลังการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้สามารถตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนให้ได้ รวมทั้งให้นำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาไปวิเคราะห์ หากพบผู้ค้ารายใหม่ให้ทำการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ให้ทราบถึงขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำเข้าสู่การดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการบำบัดฟื้นฟู ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการขยายผลและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทุกเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการยึดอายัดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด หากประชาชนที่พบเห็นความผิดปกติ หรือมีเบาะแสของขบวนการค้ายาเสพติด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 ซึ่งข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปิดเป็นความลับ มีการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น