เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ได้รับรายงานจากกรมการพัฒนาชุมชน ระบุการจัดงานงาน OTOP City 2022 ภายใต้แนวคิด "มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย" ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2565 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกระแสตอบรับที่ดี ประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงาน และหลังจากจัดงานมาได้ครึ่งทางคือระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 มีจำนวนผู้เข้าชมงานสูงถึง 86,185 คน มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 243,332,107 บาท จากผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่งฯ สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร OTOPชวนชิม ศิลปินOTOP ผ้าไทยใส่ให้สนุก OTOPขึ้นเครื่อง OTOP Premium OTOP Brandname ของขวัญของฝาก เป็นต้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในงานนี้ด้วยยอดขายสะสมประมาณ 243 ล้านบาท คิดเฉลี่ยรายได้สะสม 95,574 บาทต่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการสร้างรายได้จากงานนี้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 2,538 ราย และ 8 องค์กร และ 500 รายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Shopee ซึ่งประเภทผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ผ้าและเครื่องแต่งกาย 95,937,722 บาท, ศิลปินOTOP 28,283,260 บาท, อาหาร 23,380,762 บาท, ของใช้ของตกแต่ง 22,412,832 บาท และ OTOPชวนชิม 13,733,452 บาท โดยข้อมูลวันที่ 20 ธันวาคมผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับ คือ เครื่องประดับทอง จากจ.สุโขทัย ทองรูปพรรณลายโบราณจากจ.สุโขทัย ผ้าไหมยกดอกจากจ.ลำพูน เครื่องประดับจากจ.สระแก้ว และเครื่องประดับอัญมณีจากกรุงเทพฯ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน นำความคิดสร้างสรรค์และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ โดยสินค้า OTOP นั้นเป็นการส่งเสริมให้ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นให้ได้ประโยชน์สูงสุด ที่สอดรับกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG ประกอบกับสินค้าทุกชิ้นมีความเป็นอัตลักษณ์สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยในการประชุมเอเปค 2022 ที่ผ่านมา สินค้า OTOP ได้เป็นส่วนหนึ่งในเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาไทยสู่สายตาชาวโลก
“สะท้อนผลสำเร็จของนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีประสิทธิภาพ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยต่อยอดเพื่อให้เข้าถึงตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในงานนี้ด้วยยอดขายสะสมประมาณ 243 ล้านบาท คิดเฉลี่ยรายได้สะสม 95,574 บาทต่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการสร้างรายได้จากงานนี้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 2,538 ราย และ 8 องค์กร และ 500 รายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Shopee ซึ่งประเภทผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ผ้าและเครื่องแต่งกาย 95,937,722 บาท, ศิลปินOTOP 28,283,260 บาท, อาหาร 23,380,762 บาท, ของใช้ของตกแต่ง 22,412,832 บาท และ OTOPชวนชิม 13,733,452 บาท โดยข้อมูลวันที่ 20 ธันวาคมผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับ คือ เครื่องประดับทอง จากจ.สุโขทัย ทองรูปพรรณลายโบราณจากจ.สุโขทัย ผ้าไหมยกดอกจากจ.ลำพูน เครื่องประดับจากจ.สระแก้ว และเครื่องประดับอัญมณีจากกรุงเทพฯ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน นำความคิดสร้างสรรค์และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ โดยสินค้า OTOP นั้นเป็นการส่งเสริมให้ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นให้ได้ประโยชน์สูงสุด ที่สอดรับกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG ประกอบกับสินค้าทุกชิ้นมีความเป็นอัตลักษณ์สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยในการประชุมเอเปค 2022 ที่ผ่านมา สินค้า OTOP ได้เป็นส่วนหนึ่งในเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาไทยสู่สายตาชาวโลก
“สะท้อนผลสำเร็จของนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีประสิทธิภาพ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยต่อยอดเพื่อให้เข้าถึงตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น