นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน หรือบริการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าผู้เสียหายจะมีความแตกต่างทางเพศ อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ และประเพณีวัฒนธรรม โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้กระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพและช่วยเหลือผู้เสียหายในทุกมิติตามมาตรฐานและหลักการสากล
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เสียหายที่เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวมีแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในงานต่างๆ ที่หลากหลาย แต่ถูกนำไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ส่งผลกระทบให้ขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ ขาดรายได้ และสูญเสียโอกาสต่างๆ ในชีวิตไป ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างงานผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ฉบับนี้ จะเข้ามาช่วยเหลือและส่งเสริมให้ผู้เสียหายสามารถประกอบอาชีพ มีรายได้ระหว่างอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพและตอบสนองความต้องการแรงงานของผู้ประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อีกทั้งเป็นการเยียวยาคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้กับผู้เสียหายและป้องกันไม่ให้ถูกแสวงหาประโยชน์ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายอีก
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาระสำคัญ ของความร่วมมือครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ผู้ประกอบกิจการที่มีความประสงค์จะจัดจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวที่อยู่ระหว่างกระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพ และช่วยเหลือทางกระบวนการยุติธรรมของ สคม.ปทุมธานี ต้องดำเนินการจ้างงานให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับ ของกระทรวงแรงงาน 2) อบรมให้ความรู้ ฝึกทักษะอาชีพ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงาน และจัดประชุมเพื่อพิจารณาความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสม และกระบวนงานด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ร่วมกับผู้ประกอบกิจการ 3) ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยระหว่างที่ผู้เสียหายเป็นลูกจ้าง และห้ามมิให้กระทำการใดๆ ต่อผู้เสียหายที่เป็นการละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย 4) ผู้ประกอบกิจการต้องจัดทำรายละเอียดการรับ – จ่าย ค่าจ้างแรงงาน ส่งให้ สคม.ปทุมธานี ทราบทุกเดือน ตลอดระยะเวลาการทำงาน และ 5) สคม.ปทุมธานี และผู้ประกอบกิจการ พร้อมให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายและร่วมกันปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการจ้างงาน
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เสียหายที่เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวมีแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในงานต่างๆ ที่หลากหลาย แต่ถูกนำไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ส่งผลกระทบให้ขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ ขาดรายได้ และสูญเสียโอกาสต่างๆ ในชีวิตไป ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างงานผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ฉบับนี้ จะเข้ามาช่วยเหลือและส่งเสริมให้ผู้เสียหายสามารถประกอบอาชีพ มีรายได้ระหว่างอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพและตอบสนองความต้องการแรงงานของผู้ประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อีกทั้งเป็นการเยียวยาคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้กับผู้เสียหายและป้องกันไม่ให้ถูกแสวงหาประโยชน์ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายอีก
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาระสำคัญ ของความร่วมมือครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ผู้ประกอบกิจการที่มีความประสงค์จะจัดจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวที่อยู่ระหว่างกระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพ และช่วยเหลือทางกระบวนการยุติธรรมของ สคม.ปทุมธานี ต้องดำเนินการจ้างงานให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับ ของกระทรวงแรงงาน 2) อบรมให้ความรู้ ฝึกทักษะอาชีพ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงาน และจัดประชุมเพื่อพิจารณาความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสม และกระบวนงานด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ร่วมกับผู้ประกอบกิจการ 3) ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยระหว่างที่ผู้เสียหายเป็นลูกจ้าง และห้ามมิให้กระทำการใดๆ ต่อผู้เสียหายที่เป็นการละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย 4) ผู้ประกอบกิจการต้องจัดทำรายละเอียดการรับ – จ่าย ค่าจ้างแรงงาน ส่งให้ สคม.ปทุมธานี ทราบทุกเดือน ตลอดระยะเวลาการทำงาน และ 5) สคม.ปทุมธานี และผู้ประกอบกิจการ พร้อมให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายและร่วมกันปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการจ้างงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น