นายกิตติ กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกส่วนราชการต้องนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้บรรจุประเด็นการสนับสนุนให้ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบไว้เป็นเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดยืนของรัฐบาลที่มุ่งมั่นขจัดปัญหาการทุจริตให้หมดไปจากประเทศไทย
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ขานรับนโยบายของรัฐบาล และพยายามเสริมสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในองค์กร จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตแก่บุคลากรในหน่วยงาน และผลกระทบต่อปัญหาการทุจริต รวมทั้งส่งเสริมแนวคิดด้านนวัตกรรมการจัดการและป้องกันปัญหาการทุจริตในหน่วยงาน อันจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือ และเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการตามหลักธรรมาภิบาล
โครงการนี้ ถือเป็นการเริ่มต้น “เพาะบ่มต้นกล้าแห่งการต้านทุจริต” ให้แก่บุคลากรมีจิตสำนึกร่วมกันป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ ด้วยวิธี “ตัดไฟแต่ต้นลม” แทนการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ พร้อมสืบสาน ต่อยอด ถ่ายทอดเจตนารมณ์ด้วยการกระทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเป็นองค์กรธรรมาภิบาล โดยใช้ “คุณธรรมนำการพัฒนา” เป็นหลักในการปฏิบัติงานเพื่อประชาชน ต่อไป นายกิตติ กล่าวในตอนท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น