ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม เปิดเผยว่า คุณกิตติ เป็นผู้คร่ำหวอดบนเส้นทางสายพัฒนาธุรกิจ และอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บี.กริม ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และได้วางเป้าหมายขยายกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม ให้เติบโตไปทั่วโลก โดยการผนึกพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว พร้อมสร้างคุณค่าสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำทัพของ คุณกิตติ พัฒนลีนะกุล ผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ และความสามารถ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการนำกลุ่มธุรกิจนี้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
“คุณกิตติ เป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านพัฒนาธุรกิจให้กับเอสซีจี (SCG) มาอย่างยาวนาน จากความความสำเร็จต่างๆ ที่ผ่านมา จะมาสู่การต่อยอดกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมของ บี.กริม ได้เป็นอย่างดี” ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว
นายกิตติ พัฒนลีนะกุล ประธานกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม กล่าวว่า ทิศทางการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม จากนี้ จะมุ่งสร้างความร่วมมือภายในองค์กร ภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้าง Synergy ภายในบี.กริม โดยนำจุดแข็งและนวัตกรรมของแต่ละธุรกิจมาทำงานประสานกันแบบไร้รอยต่อ เพื่อส่งมอบเป็นโซลูชันใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละโครงการให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้น ด้านการสร้างคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้ใช้งานอาคารพาณิชย์ โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมในสภาวะที่มีการระบาดของโควิด-19 รวมถึงด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เป็นต้น
นอกจากเรื่อง Synergy ภายในธุรกิจเดิมที่ บี.กริม มีอยู่แล้ว ยังตั้งเป้าพัฒนาใน 3 เรื่องหลัก เพื่อตอบรับกับความต้องการในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 1. ด้านนวัตกรรม (Innovation) โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนำนวัตกรรมมาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บี.กริม 2. ด้าน Digitalization นำข้อมูลต่างๆ เก็บรวมรวบเป็น Big Data และนำข้อมูลมาวิเคราะห์และใช้งานด้วย AI ซึ่งจะช่วยให้การทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยนวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ บี.กริม ในการจัดการพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ลดเวลาบำรุงรักษา และป้องกันความเสียหายที่อาจทำให้แต่ละอุตสาหกรรมต้องหยุดการทำงานลง นอกจากนี้ ยังทำให้ บี.กริม เป็นผู้ให้บริการที่สามารถปรับเปลี่ยนโซลูชันให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย และ 3. ด้านการจัดการระบบแบบองค์รวม (System Integrator) มุ่งสู่การเป็น System Integrator หรือผู้ที่ประสานทุกระบบเข้าด้วยกันทั้งเก่าและใหม่ ให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายในการจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมมอบคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้ใช้งานอาคารพาณิชย์ โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรม (Smart, Energy Optimization, and Well-being for Commercial & Industrial)
“ทั้งหมดนี้จะทำให้ บี.กริม สามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งทำให้อาคารหรือโรงงานของลูกค้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งานอาคารหรือเจ้าของโรงงาน และส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีกด้วย” นายกิตติ กล่าว
นายกิตติ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม สามารถเติบโตได้ดี แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ยอดขายกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยังคงเติบโต และคาดว่าในปีหน้ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยจุดแข็งหลักของกลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ พันธมิตร กับบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ช่องทางการตลาดและฐานลูกค้า ที่แข็งแกร่งและ ความหลากหลายของธุรกิจ ของ บี.กริม ที่สามารถสร้างความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน และสามารถสร้าง Synergy จากทั้งในบี.กริม และพันธมิตร
“จุดแข็งทั้งหมดนี้จะสร้างโอกาสให้ บี.กริม ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจของคู่ค้าของเราให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” นายกิตติ กล่าว
ในส่วนของการขยายตลาดต่างประเทศ บี.กริม อุตสาหกรรม มีศักยภาพในการขยายการส่งออกอีกมากโดยจะร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งการสร้างความร่วมมือที่ดีกับพันธมิตร หรือ Partnership ถือเป็น 1 ใน 4 ค่านิยมองค์กรที่ บี.กริม ยึดถือมาอย่างยาวนาน
นายกิตติ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ บี.กริม อุตสาหกรรม ตั้งใจจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกค้าในกลุ่ม อุตสาหกรรม อาคาร นิคมอุตสาหกรรมและสังคมประเทศไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ บี.กริม ที่ยึดมั่นมาตลอด 144 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น