ปลัดมหาดไทย เผย “ไม่ปกป้องคนผิด” ย้ำ กลไกมหาดไทยทุกพื้นที่ มุ่งมั่นดำเนินการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น...D - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ปลัดมหาดไทย เผย “ไม่ปกป้องคนผิด” ย้ำ กลไกมหาดไทยทุกพื้นที่ มุ่งมั่นดำเนินการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น...D

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยถึงกรณีปลัดอำเภอรัตภูมิ และ อส. ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลา รวม 6 นาย เรียกรับผลประโยชน์แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกำชับให้ได้ข้อสรุปภายใน 15 วัน ก่อนตั้งคณะกรรมการสอบวินัยควบคู่ไปกับคดีทางอาญา ให้เป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันกระทรวงมหาดไทยไม่มีการปกป้องคนทำผิดและดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น เพราะกระทรวงมหาดไทย ตั้งใจในการแก้ไขในสิ่งผิดอยู่แล้ว นี่เป็นภารกิจหน้าที่ เพราะคนทำผิดก็คือคนทำผิด ส่วนคนทำดี ก็ต้องให้กำลังใจกัน

“ขอยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทย ทุกกลไก ทุกองคาพยพในพื้นที่ มุ่งมั่นในการเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อไป โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านนายอำเภอ ได้ร่วมกับประชาชน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ค้นหาและรวบรวมประมวลรายชื่อผู้ค้า ผู้เสพ ส่งมาที่กระทรวงมหาดไทย ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ต.ค. 65 เราจะมีฐานข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการกวาดล้างผู้กระทำความผิดให้ได้รับโทษทางกฎหมาย ส่วนผู้เสพผู้ติดยาเสพติดจะเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในเชิงคุณภาพ ไม่ได้มาเช้า-เย็นกลับ หรืออยู่แค่ 1-2 วัน แต่ต้องอยู่บำบัดรักษาจนมั่นใจว่า เราคืนลูกหลานที่ดีให้พ่อแม่ได้ คืนคนดีให้ครอบครัวได้” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานจากจังหวัดต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติดในหลายพื้นที่ เช่น

1) จังหวัดฉะเชิงเทรา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รับมอบชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ พร้อมอุปกรณ์ 3 รายการ จาก ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย 1. ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะประเภทเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) พร้อมอุปกรณ์ 100,000 ชุด 2. ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะประเภทเมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (ยาอี) พร้อมอุปกรณ์ 3,000 ชุด และ 3. ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะประเภทเคตามีน (ยาเค) พร้อมอุปกรณ์ 3,000 ชุด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,830,315 บาท เพื่อใช้ตรวจสารเสพติด และอุปกรณ์สำหรับค้นหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติด โดยดำเนินการ/ร่วมดำเนินการและสนับสนุนหน่วยงานในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อหยุดยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด อันจะทำให้ครอบครัว ชุมชน และสังคม มีความสงบสุข ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากปัญหายาเสพติด ตามนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล

2) จังหวัดปัตตานี นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มอบหมายให้ นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอเมืองปัตตานี นำ นายศศิพงศ์ ชูเชิด ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายมังโซ หะยีอาแว ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง นายประวิทย์ สุขสว่าง ปลัดอำเภองานยาเสพติด พร้อมกำลังสมาชิก อส. ชุดปฏิบัติการ BLACKHAWK สนธิกำลังร่วมกับ พันตำรวจโท คณนาถ ไพนุพงศ์ สารวัตรกองกับคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำการจับกุมนายมะรูดิง พร้อมของกลาง ยาบ้า 120 เม็ด และสามาถขยายผลทำการจับกุม นายมุสลาม พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 394 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

3) จังหวัดแพร่ นางสาวนิติยา พงษ์พาณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งการให้ นายวาทิต ปัญญาคม ปลัดจังหวัดแพร่ นำนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ พร้อมด้วยปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองแพร่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ ได้ขออำนาจศาลออกขอหมายค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้า 70 เม็ด จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง โดยผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหาด้วยความเต็มใจ

4) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สั่งการให้นายสมยศ ณ นคร นายอำเภออ่าวลึก พร้อมด้วย นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายชนะพล เที่ยงธรรม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภออ่าวลึก นำกำนันตำบลบ้านกลาง พร้อมด้วยสมาชิก อส. อำเภออ่าวลึกที่ 7 ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยสามารถทำการจับกุม นายธนพล อายุ 21 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊บบรรจุปาก) และอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และนางสาวพัชมน อายุ 28 ปี นายกิตติธัช อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 105 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอ่าวลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

5) นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมและบูรณาการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอวังสะพุง โดยมี พันตำรวจเอก ยุทธวัฒน์ โชคชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย นายภูริวัฒน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง พันตำรวจเอก ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังสะพุง พันตำรวจเอก เทอดศักดิ์ บุญโชติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองหญ้าปล้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังสะพุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองหญ้าปล้อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังสะพุง สมาชิก อส. กองร้อย อส. จังหวัดเลย ที่ 2 สมาชิก อส. กองร้อย อส. อำเภอวังสะพุง ที่ 6 และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในพื้นที่อำเภอวังสะพุง ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดตามยุทธการ“พิทักษ์ไทเลย 66” เพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย สร้างความเชื่อมั่นต่อพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด โดยสามารถรวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 459 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

6) จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มอบหมายให้ นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี นำนายจิตรติ รามเนตร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายวิทวัส พงศ์กรเกียรติ ปลัดอำเภอเมืองสุพรรณบุรี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) บูรณาการร่วมกับพันตำรวจเอก ธัชชัย ทิพเนตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี ออกตรวจสถานบริการ ร้านอาหาร สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ และสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้มาใช้บริการสถานบันเทิง พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องปรามมิให้มีการมั่วสุมในสถานประกอบการ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า บุคลากรของกระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในทุกพื้นที่ สกัดกั้นการแพร่ระบาดและกวาดล้างยาเสพติดทุกชนิดอย่างสิ้นซาก เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่ให้ยาเสพติดเป็นปัญหาให้เกิดความวุ่นวายและความไม่ปกติสุขในสังคม ในขณะเดียวกัน ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินการกับบุคลากรในสังกัดที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับยาเสพติดในทุกมิติ ทั้งในฐานะผู้เสพ ผู้ค้า หรือในฐานะเจ้าพนักงาน หากพบมีความผิดต่อหน้าที่ ต้องถูกดำเนินคดีทั้งอาญา และวินัยตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่มีละเว้น ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลบ้านเมืองของพวกเราทุกคน ด้วยการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและทุกเรื่อง ผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น