เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน และผู้แทนองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย เข้าร่วมประชุมกับผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคมและสาธารณสุข สาธารณรัฐฟินแลนด์ ตามคำเชิญขององค์การยูนิเซฟ (UNICEF) เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ด้านนโยบายและประสบการณ์ในการคุ้มครองดูแลเด็กและเยาวชน
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ระบบการดูแลเด็กของฟินแลนด์นั้น รัฐบาลฟินแลนด์ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กและครอบครัวอย่างมาก โดยจัดสรรงบประมาณจำนวนมากพอควรเพื่อคุ้มครองเด็กและครอบครัว โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับความสุขของเด็ก ซึ่งต้นปีหน้า (พ.ศ. 2566) ฟินแลนด์จะปรับโครงสร้างและภารกิจองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากขึ้น ทั้งนี้ ฟินแลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มีการดูแลเด็กดีที่สุดในโลก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเก็บภาษีในอัตราค่อนข้างสูงมาก อย่างไรก็ดี ฟินแลนด์ต้องเผชิญกับข้อท้าทายในเรื่องจำนวนเด็กที่หลุดจากสถาบันครอบครัวเพิ่มขึ้น และความพอเพียงของคนทำงานที่กำหนดให้ต้องมีนักสังคมสงเคราะห์ จำนวน 1 คนต่อเด็ก 30 คน
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับระบบการดูแลเด็กของไทยนั้น มีความคล้ายคลึงกับฟินแลนด์อยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและมีความเปราะบาง ซึ่งไทยได้ใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อดูแลเด็กอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ ระบบการดูแลเด็กไทยมุ่งเน้นเด็กและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง โดยพร้อมเรียนรู้ ปรับปรุงการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเด็ก นอกจากนี้ ตนพร้อมคณะยังได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนแนวทางการดูแลเด็กของฟินแลนด์ที่มุ่งเน้นการทำงานกับสภาพแวดล้อมของเด็ก และฟีดแบค (Feedback) ของเด็กและครอบครัว ซึ่งเป็นแนวทางการดูแลเด็กแบบใหม่ที่คาดหวังว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนที่ซับซ้อนขึ้นในปัจจุบันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น