นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 เพื่อเป็นหน่วยงานหลักด้านสังคมของภาครัฐสำหรับการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและเสริมสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม อีกทั้งบูรณาการความร่วมมือในการทำงานกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งในวันที่ 3 ตุลาคม 2565 นี้ ตรงกับวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง พม. ครบรอบ 20 ปี จึงได้กำหนดจัดงาน “20 ปี พม. เสริมพลัง สร้างโอกาส พัฒนาคนทุกช่วงวัย” เป็นระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 - 16.00 น. ณ กระทรวง พม. สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการขับเคลื่อนงานด้านสังคมในภาพรวมของประเทศสำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการแสดงผลงานอันเป็นรูปธรรมตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยได้ระดมทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ร่วมกันจัดงานครั้งนี้
นายอนุกูล กล่าวต่อไปอีกว่า ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจมากมาย ทั้งด้านวิชาการ โดยผู้มีชื่อเสียงมาร่วมปาฐกถาพิเศษ มีพิธีลงนาม MOU เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง การสร้างความร่วมมือต่าง ๆ และมีพิธีรับมอบรถเข็นคนพิการ จำนวน 1,000 คัน นอกจากนี้ ยังมีพิธีรับมอบการสนับสนุนอาหารจากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ตลอดจนกิจกรรมแฟชั่นโชว์ : DWF Fashion Show 2022 "Weaving a Dream" และมีพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ พร้อมเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับการคัดเลือก อีกด้วย
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สุดท้ายนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ไม่ควรพลาด โดย การเคหะแห่งชาติ (กคช.) จะนำบ้านทั้งเช่าและเช่าซื้อเป็นจำนวนกว่า 10,000 ยูนิต ในโครงการต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด มาเปิดให้จองด้วยข้อเสนอพิเศษ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงในราคาที่เหมาะสม อีกทั้งสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) ซึ่งเป็นโรงรับจำนำของรัฐได้จัดกิจกรรมประมูลทรัพย์หลุดจำนำ ราคาพิเศษ ตลอดจนมีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาถูกอีกด้วย ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมงานครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยไปด้วยกัน ให้เข้มแข็ง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น