สมาคมนักเขียนฯ ประกาศผลรางวัลบรรณาธร บันทึกหมุดหมายวรรณกรรมไทย เผยตลอด 1 ปี คัดบทกวี-เรื่องสั้นนับพันชิ้นจากทั่วประเทศ เหลือ 10 ชิ้น เข้าชิงรางวัลรวมกว่าแสนบาท

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดงานประกาศผลและมอบรางวัล บทกวีและเรื่องสั้น "บรรณาธร" ที่โรงแรมตรัง ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีนางชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ ให้เกียรติร่วมงาน และเจ้าของผลงานที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน ตลอดจนบุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมจำนวนมาก

นายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กองทุนฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และมีการดำเนินโครงการต่างๆ ร่วมกัน โดยโครงการประกวดบทกวี และ เรื่องสั้น รางวัล “บรรณาธร” เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ทางกองทุนฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญกับการที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้เปิดพื้นที่สำหรับเผยแพร่ผลงานของนักเขียน เพื่อสร้างความตื่นตัวแก่วงการวรรณกรรม เสริมส่งแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจแก่นักเขียนในการรังสรรค์ผลงาน ทั้งนี้นักคิด นักเขียน คือบุคคลผู้นำทางความคิดของสังคม การที่สมาคมฯ ได้เปิดพื้นที่ดังกล่าวในรูปแบบของรางวัล “บรรณาธร” เพื่อให้นักเขียนได้มีเวทีในการนำเสนอแนวคิด มุมมอง ผ่านตัวอักษร โดยมีสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยเป็นสื่อกลางนี้ ทางกองทุนฯ มีความยินดีสนับสนุนและขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับผู้ได้รับรางวัล และขอเป็นกำลังใจแก่นักเขียนทุกท่านที่มุ่งมั่นในการผลิตผลงานสร้างสรรค์ออกสู่สายตาประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วยไฟฝันในการผลิตผลงานอย่างไม่มีวันมอดดับ

นายสกุล บุณยทัต นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ จัดการประกวดบทกวีและเรื่องสั้น รางวัลบรรณาธร ขึ้นในวาระที่สมาคมฯ ก่อตั้งมาครบ 50 ปี ใน พ.ศ. 2564  เป็นการเปิดพื้นที่สำหรับเผยแพร่ผลงานของกวีและนักเขียน สร้างความตื่นตัวแก่วงการวรรณกรรม และสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจแก่กวีและนักเขียนในการสร้างสรรค์ผลงาน การประกวดครั้งนี้ เปิดรับผลงานระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงเดือนพฤษภาคม 2565 มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจากทั่วประเทศ 1,667 เรื่อง คัดเลือกผลงานเข้าสู่รอบตัดสิน 10 ชิ้น ซึ่งมีการประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลในวันนี้ 

นางสาวทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลงานของนักเขียนทุกคนมีคุณค่าในฐานะพลังสร้างสรรค์ทางความคิดที่ถ่ายทอดแก่ผู้อ่านมาโดยตลอด การประกวดบทกวีและเรื่องสั้นครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของวงวรรณกรรมไทย สมาคมฯ จึงได้ร่วมสนับสนุนการจัดพิมพ์“กลืนกลาย” ซึ่งเป็นหนังสือรวม 48 บทกวี และ 48 เรื่องสั้น ที่เกิดขึ้นในโครงการนี้ ที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ความคิดของกวีและนักเขียนไทยให้รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลการตัดสินบทกวีและเรื่องสั้นการประกวดบทกวีและเรื่องสั้น รางวัลบรรณาธร ของ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย มีดังนี้

บทกวี

       

รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 30,000 บาท ได้แก่

            บทกวี เรื่อง แม้มิใช่คืนวันอันเคยคุ้น  โดย ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์

        รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 15,000 บาท ได้แก่

            บทกวี เรื่อง ฉันแอบเคี้ยวเอื้องความขมขื่น  โดย ถนอม ขุนเพ็ชร์

        รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 10,000 บาท ได้แก่

            บทกวี เรื่อง  นิทานดวงดาวและข่าวคราวของสงคราม  โดย นิตา มาศิริ

        รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินสด รางวัลละ 3,000 บาท ได้แก่

            1. บทกวี เรื่อง การกลับมาของฝูงปลาเทราต์ โดย คำก้อย

            2. บทกวี เรื่อง ลมหายใจบนซากเมืองแปลกหน้า โดย องอาจ สิงห์สุวรรณ

    เรื่องสั้น

     

รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 30,000 บาท ได้แก่

            เรื่องสั้น เรื่อง นักจับวิญญาณ  โดย รมณ กมลนาวิน

        รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 15,000 บาท ได้แก่

            เรื่องสั้น เรื่อง กลายเป็นเด็ก  โดย สะคราญเลศ โยหาญสาร

        รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสด 10,000 บาท ได้แก่

            เรื่องสั้น เรื่อง ซิ่นสาละวัน  โดย ศิริ มะลิแย้ม

        รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินสด รางวัลละ 3,000 บาท  ได้แก่

            1. เรื่องสั้น เรื่อง ปัตตานีภิรมย์ (ประวัติศาสตร์หยาดฝน) โดย จรรยา สุวรรณ์

            2. เรื่องสั้น เรื่อง ระหว่างทาง โดย ชาคริต คำพิลานนท์