สำหรับสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา เป็นการปรับปรุงโครงสร้างเดิมของรางรถไฟฟ้าลาวาลิน ที่ก่อสร้างไม่เสร็จในปี พ.ศ. 2527 ให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้า ซึ่งมีทางเดินและทางจักรยานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 280 เมตร ความกว้าง 8.50 เมตร โดยมีระยะห่าง 0.80 เมตร จากช่องทางเดินรถบนสะพานพระปกเกล้าทั้ง 2 ฝั่ง และความสูงคงที่วัดจากระดับพื้น 9 เมตร ติดตั้งราวกันตกความสูง 2-3 เมตร พร้อมทั้งติดตั้งลิฟต์โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุที่มาใช้บริการ เป็นแหล่งนันทนาการ ใช้สำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย เป็นจุดชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางสีเขียวของต้นไม้ในสวนตลอดเส้นทาง อาทิ มะกอกน้ำ ชาข่อย ใบต่างเหรียญ รัก หญ้าหนวดแมว ยี่โถ ชงโค ต้อยติ่ง เอื้องหมายนา เป็นต้น โดยดำเนินการปรับปรุงในปี พ.ศ. 2561 แล้วเสร็จเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มอบให้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง เป็นผู้ดูแล
ทั้งนี้ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา นอกจากจะเชื่อมการสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีเข้ากับฝั่งพระนครแล้ว ยังเชื่อมสวนสมเด็จพระปกเกล้าฯ เขตพระนคร เข้ากับสวนป่ากรุงเทพมหานครเฉลิมพระเกียรติ เชิงสะพานพระปกเกล้า เขตคลองสาน ปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงระบบไฟฟ้าบริเวณสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ได้ชำรุดเสียหาย สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง จึงขอจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุง พร้อมทั้งจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตพระนคร เตรียมพัฒนาพื้นที่สวนสมเด็จพระปกเกล้าฯ เป็นศูนย์เรียนรู้การคัดแยกขยะมูลฝอย รวมถึงพิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่ใต้สะพานพระปกเกล้า และพื้นที่โดยรอบไปรสนียาคาร (ที่ทำการไปรษณีย์แห่งแรก) เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีความร่มรื่น และสวยงาม
“การขอจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงนั้น จะต้องพิจารณาถึงรูปแบบความเหมาะสม เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขอจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้การดำเนินงานปรับปรุงเกิดประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลตามเป้าหมาย ที่สำคัญจะต้องเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง” รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว
#บริหารจัดการดี #สิ่งแวดล้อมดี #ปลอดภัยดี
,,,,(จิรัฐคม...สปส.รายงาน) ขอบคุณภาพและข่าวจากเพจprbangkok.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น