ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมหารือร่วมกับมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทยหรือ iTIC ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือร่วมกันมาหลายเรื่องแล้ว ทั้งเรื่องข้อมูลการจราจร รวมถึงเรื่องความปลอดภัย และจุดเสี่ยงภัยต่าง ๆ โดยวันนี้ได้หารือในเรื่องของของกล้อง CCTV เพื่อแบ่งปันข้อมูลร่วมกัน พัฒนาศักยภาพในด้านความปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีกล้อง CCTV อยู่ประมาณ 60,000 กล้อง เพื่อใช้ในด้านการจราจร และความปลอดภัย ที่ผ่านมาได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจจราจรเป็นหลัก แต่ยังไม่มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยจะหาแนวทางเพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ อาจจะเอาระบบ AI มาวิเคราะห์ หรือหาข้อมูลมาตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาการจราจรให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาทั้ง 50 สำนักงานเขต ได้มีการจัดประชุมร่วมกัน ทั้งผู้อำนวยการเขต ฝ่ายเทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อระบุจุดที่เป็นปัญหาด้านการจราจร คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะได้รายงานข้อสรุป จากนั้นจะนำขึ้นแผนที่ จุด GPS แจ้งพิกัด และจะลงไปดูแลเรื่องการกวดขันวินัยจราจรในจุดเหล่านี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด นำเทคโนโลยีมาปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวด้วยว่า กทม. ได้นำข้อมูลจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย มาวิเคราะห์ว่าจุดเสี่ยง 100 จุด ที่เกิดอุบัติเหตุมีที่ไหนบ้าง เรื่องต่อมามีการนำข้อมูลเรื่องรถติด มาวิเคราะห์ว่าปัญหารถติดมีในช่วงเวลาใดบ้าง ที่ผ่านมามีการนำข้อมูลเพื่อมาดูย้อนหลัง แต่ในอนาคตจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ล่วงหน้า เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านั้นต่อไป
ด้านนายนินนาท ประธานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย ได้ตั้งขึ้นมา 12 ปีแล้ว อยู่ที่อาคารวิศวฯ 100 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน 12 ปีที่ผ่านมา ได้มีการเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ และได้บันทึกข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดในประเทศไทยและ กทม. ซึ่ง 50% ของการเกิดอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นใน กทม. ทำให้เรามีความหวังในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการร่วมมือกับ กทม. และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ในการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงต่าง ๆ ขณะเดียวกันในวันนี้ได้พูดคุยเพื่อขอเชื่อมกล้อง CCTV จาก กทม. ซึ่งมีอยู่กว่า 60,000 กล้อง โดยจะเลือกกล้องที่เกี่ยวกับสภาพการจราจร เพื่อบริหารจัดการและจัดทำข้อมูลให้มีความเข้าใจง่าย และส่งต่อไปยัง บก.จร. เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ในส่วนของจุดเสี่ยง 100 จุดของ กทม. จะคัดเลือก 20 จุด เพื่อนำมาทดลองแก้ปัญหาร่วมกัน ที่ผ่านทางมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทยได้ทำสำเร็จไปแล้วบางส่วนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะได้ข้อสรุปร่วมกันในการจัดตั้งคณะกรรมการ จากนั้นจะมีการเซ็น MOU เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและทำกิจกรรมต่างๆ โดยเร็วตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ขอบคุณภาพและข่าวจากเพจprbangkok.com)
----- (จิรัฐคม...สปส.รายงาน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น