นายจุติ กล่าวว่า การส่งเสริม CSR ตนได้ให้นโยบายว่า ทุกจังหวัดให้ตั้งกองบุญอยู่ที่ พมจ. ด้วยการทำบุญแบบพอเพียง ไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น โดยนำของส่วนที่เหลือที่ตัวเองมี รวมทั้งน้ำใจ แรงงาน และเงิน เพราะบางอย่างเงินไม่สามารถหาซื้อได้ อีกทั้งได้เสนอแนะว่า อย่าทำ CSR เพียงอย่างเดียว แต่ให้ทำกลยุทธ์การทำ CSR ด้วย โดย ตนจะทำให้คนกระทรวง พม. ทุกระดับเป็นอุตสาหกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทย เพราะกระทรวง พม. เป็นหน่วยงานภาครัฐที่ไม่หวังผลกำไร ทำให้สามารถดำเนินการได้เต็มที่
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลเด็กควรพัฒนา Software คือ พี่เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ ต้องจัดให้มีการอบรมมาตรฐานพี่เลี้ยงเด็ก โดยขอให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแลด้านจิตวิทยา สอนให้เด็กคิดบวก มีเกมส์ให้เล่น รวมทั้งด้านสุขอนามัย โภชนาการ อย่ามุ่งเน้นหรือคาดหวังให้เด็กจะต้องเรียนอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นให้เด็กได้เปิดสมอง มีความคิดสร้างสรรค์ และให้มีจิตใจที่มั่นคงตั้งแต่เด็ก อีกทั้งมีนักสังคมสงเคราะห์คอยดูแลเด็ก นี่คือจุดแข็งของกระทรวง พม. และเด็กที่เราต้องสร้าง คือ เด็กที่มีพลังแห่งการฟื้นตัว คือ เมื่อล้มแล้วลุกได้ และรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพื่อเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น