เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่แยกลำกระโหลก เขตคลองสามวา เพื่อติดตามปัญหาการจราจรและปัญหาอื่นในพื้นที่เขตคลองสามวา ซึ่งผู้ว่าราชการกรุเทพมหานครได้ให้ความสนใจสอบถามสภาพความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ รวมถึงแรงงานที่มารอการจ้างงานบริเวณตลาดกีบหมู
“วันนี้ได้มาเยี่ยมเขตคลองสามวา เป็นเขตที่มีประชากรหนาแน่นมาก แต่โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้ปรับให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่หนาแน่น จะเห็นได้ว่าปัญหารถติดไม่ได้มีแต่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งในวันนี้ ส.ส. และ ส.ก.ในพื้นที่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาร้องเรียนให้ทราบ ทั้งปัญหารถติดขัดที่ต่อเนื่องไปหลายแยก และได้มอบให้รองผู้ว่าฯ วิศณุ ดูภาพรวมการจราจรในพื้นที่ และการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้วางเป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว จำเป็นต้องมีสะพานข้ามแยกหรือไม่ ต้องปรับปรุงถนนหรือขยายถนนเส้นไหน ซึ่งเขตหนองจอก มีนบุรีก็มีปัญหาเรื่องการเดินทางเช่นเดียวกัน นอกจากนี้พบว่าในพื้นที่มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพูแต่รถสาธารณะที่จะเป็น Feeder นำไปสู่ระบบรถไฟฟ้ายังไม่เพียงพอ จนสุดท้ายประชาชนก็ต้องใช้รถส่วนตัว ในส่วนของงบประมาณลงมาไม่เยอะในขณะที่ประชากรมีจำนวนมากและพื้นที่กว้าง ต้องดูว่าจะปรับปรุงด้านต่าง ๆ อย่างไรทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา ระบายน้ำ และการกำจัดขยะ คงต้องดูรายละเอียดให้มากขึ้น เพราะความต้องการของประชาชนก็ไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ ชั้นใน รวมถึงแรงงานที่มารอการจ้างงานบริเวณตลาดกีบหมู เห็นว่าในอนาคตอาจมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตลาดรวมแรงงาน เป็นโมเดลต้นแบบศูนย์รวมช่างฝีมือ และจัดฝึกอบรมแรงงานเพื่อให้มีทักษะความเชี่ยวชาญมากขึ้น ซึ่งจะมีการลงพื้นที่สัญจรเพื่อติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ในส่วนของปัญหาการระบายน้ำเดือนที่ผ่านมาได้ลอกท่อไปแล้วกว่า 2,000 กิโลเมตร ในหลายพื้นที่ มีการลอกคลองสายหลักเช่นคลองลาดพร้าว มีการน ำMobile Unit มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมทั้งประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดเพื่อระบายน้ำออกนอกพื้นที่ ที่ผ่านมาวางแผนได้ดี คงต้องดูในยุทธศาสตร์ระยะยาว แต่คิดว่าเรื่องน้ำท่วมตอนนี้เราไปได้ถูกทางแล้ว ผู้ว่าฯ กล่าวเพิ่มเติม
กรณีการตรวจสอบสถานบันเทิง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่าได้รับรายงานว่ามี 400 จุด แต่จุดที่มีปัญหามี 83 แห่ง โดยเฉพาะทางหนีไฟที่ต้องให้ความสำคัญ ประชาชนจะไม่รู้ว่าที่ไหนถูกกฎหมาย ผิดกฎหมาย กทม. จึงต้องดูให้ละเอียด และประสานตำรวจลงพื้นที่ด้วย ปัจจุบันคลองสามวาเป็นเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากที่สุด โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎร์ กว่า 250,000 คน ไม่รวมประชากรแฝง และมีเนื้อที่ 110 ตารางกิโลเมตร
“วันนี้ได้มาเยี่ยมเขตคลองสามวา เป็นเขตที่มีประชากรหนาแน่นมาก แต่โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้ปรับให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่หนาแน่น จะเห็นได้ว่าปัญหารถติดไม่ได้มีแต่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งในวันนี้ ส.ส. และ ส.ก.ในพื้นที่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาร้องเรียนให้ทราบ ทั้งปัญหารถติดขัดที่ต่อเนื่องไปหลายแยก และได้มอบให้รองผู้ว่าฯ วิศณุ ดูภาพรวมการจราจรในพื้นที่ และการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้วางเป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว จำเป็นต้องมีสะพานข้ามแยกหรือไม่ ต้องปรับปรุงถนนหรือขยายถนนเส้นไหน ซึ่งเขตหนองจอก มีนบุรีก็มีปัญหาเรื่องการเดินทางเช่นเดียวกัน นอกจากนี้พบว่าในพื้นที่มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพูแต่รถสาธารณะที่จะเป็น Feeder นำไปสู่ระบบรถไฟฟ้ายังไม่เพียงพอ จนสุดท้ายประชาชนก็ต้องใช้รถส่วนตัว ในส่วนของงบประมาณลงมาไม่เยอะในขณะที่ประชากรมีจำนวนมากและพื้นที่กว้าง ต้องดูว่าจะปรับปรุงด้านต่าง ๆ อย่างไรทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา ระบายน้ำ และการกำจัดขยะ คงต้องดูรายละเอียดให้มากขึ้น เพราะความต้องการของประชาชนก็ไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ ชั้นใน รวมถึงแรงงานที่มารอการจ้างงานบริเวณตลาดกีบหมู เห็นว่าในอนาคตอาจมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตลาดรวมแรงงาน เป็นโมเดลต้นแบบศูนย์รวมช่างฝีมือ และจัดฝึกอบรมแรงงานเพื่อให้มีทักษะความเชี่ยวชาญมากขึ้น ซึ่งจะมีการลงพื้นที่สัญจรเพื่อติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ในส่วนของปัญหาการระบายน้ำเดือนที่ผ่านมาได้ลอกท่อไปแล้วกว่า 2,000 กิโลเมตร ในหลายพื้นที่ มีการลอกคลองสายหลักเช่นคลองลาดพร้าว มีการน ำMobile Unit มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมทั้งประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดเพื่อระบายน้ำออกนอกพื้นที่ ที่ผ่านมาวางแผนได้ดี คงต้องดูในยุทธศาสตร์ระยะยาว แต่คิดว่าเรื่องน้ำท่วมตอนนี้เราไปได้ถูกทางแล้ว ผู้ว่าฯ กล่าวเพิ่มเติม
กรณีการตรวจสอบสถานบันเทิง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่าได้รับรายงานว่ามี 400 จุด แต่จุดที่มีปัญหามี 83 แห่ง โดยเฉพาะทางหนีไฟที่ต้องให้ความสำคัญ ประชาชนจะไม่รู้ว่าที่ไหนถูกกฎหมาย ผิดกฎหมาย กทม. จึงต้องดูให้ละเอียด และประสานตำรวจลงพื้นที่ด้วย ปัจจุบันคลองสามวาเป็นเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากที่สุด โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎร์ กว่า 250,000 คน ไม่รวมประชากรแฝง และมีเนื้อที่ 110 ตารางกิโลเมตร
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา และนายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา ได้ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล (ขอบคุณภาพและข่าวจากเพจ prbangkok.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น