• ภาพรวมสถานการณ์น้ำยังบริหารจัดการได้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้มีการรายงานสถานการณ์น้ำฝน น้ำเหนือ น้ำหนุน ซึ่งยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่เฝ้าระวังคือน้ำฝั่งตะวันออก ตอนนี้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาปล่อยอยู่ประมาณ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังไม่ถึงระดับวิกฤต ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถรับได้ถึง 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่จะมีน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไหลมาสมทบ กรมชลประทานผันน้ำส่วนใหญ่มาที่แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกน้ำค่อนข้างเต็ม ซึ่งอาจทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มถึง 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เรายังสามารถควบคุมได้
ทาง กทม. พร้อมรับมือทุกด้าน มีการประสานงานกับกรมชลประทานอย่างเข้มข้น มีการกั้นกระสอบทรายตามแนว และจุดฟันหลอ คิดว่าน่าจะเป็นช่วงวันที่ 7-10 ก.ย. 65 ที่น้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือจะไหลลงมา แนวป้องกันเขื่อนทุกจุดมีผู้รับผิดชอบดูแล มีการพร่องน้ำในคลองเท่าที่สามารถพร่องได้เพื่อเตรียมรับมือ ตอนนี้สถานการณ์น้ำทางด้านตะวันออกเริ่มดีขึ้น มีการติดเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม เพื่อให้น้ำออกมาที่พระโขนงได้ดีขึ้น ในระยะยาวสุดท้ายแล้วต้องดูว่า ในอนาคตถ้าแม่น้ำเจ้าพระยาปล่อยจากข้างบนมาเยอะขึ้นต้องบริหารจัดการอย่างไร คงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง
ด้านนายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสริมว่า เมื่อคราวที่แล้วที่มีน้ำท่วมแถวสุขุมวิท วันก่อนเราไปตรวจที่สถานีสูบน้ำคลองเตย ซึ่งตอนนี้สามารถเดินเครื่องเพิ่มเติม จากเดิมอยู่ที่ 11 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 27.5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตอนนี้เส้นสุขุมวิทด้านล่างจึงไม่ค่อยน่าห่วง ในส่วนการประสานงานกับกรมชลประทานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีที่จะผันน้ำออกด้านข้างไม่นำเข้ามาในพื้นที่ของ กทม.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ถ้าจะเป็นห่วงคือ ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ที่บางทีไม่ได้กดดันแค่เรา แต่กดดันฝั่งปากน้ำ สมุทรปราการด้วย ทำให้เราไม่สามารถระบายออกทางอื่นได้ ถ้าด้านนอกเต็มหมด ก็ต้องไหลเข้ามาที่ประเวศ พระโขนงเป็นหลัก ตอนนี้ต้องเร่งประสิทธิภาพของพระโขนงให้สูงสุด หรือประตูตรงคลองเตยก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้อย่างน้อยสามารถนำน้ำออกจากประเวศ แถวเฉลิมพระเกียรติ แถวอ่อนนุช ก็จะดีขึ้น ซึ่งพื้นที่ 98% ของกทม.ไม่มีน้ำท่วมขัง ถือว่าปฏิบัติการได้ตรงตามแผน
• เขตพระโขนงตรวจสอบตึกเอียงเบื้องต้น พร้อมนัดหมายผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบ
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึง กรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้แชร์ภาพ อาคารพาณิชย์ ริมถนนสุขุมวิท 101/1 จำนวน 15 ห้อง โดยในภาพจะเห็นว่าอาคารมีความเอียงของตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำนักงานเขตพระโขนงได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตได้เข้าไปตรวจสอบอาคารดังกล่าวสร้างขึ้นในปี 2521 และเริ่มเอียงมาไม่น้อยกว่า 15 ปีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้อยู่อาศัยหาที่พักอาศัยชั่วคราวไปก่อน และให้ทางวิศวกรที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมลงไปตรวจสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าตึกนี้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ทั้งนี้ สำนักงานเขตพระโขนงได้ประสานกับสำนักการโยธาและหน่วยงานนอกซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญเพื่อนัดหมายวันเข้าไปตรวจสอบแล้ว
• ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหารือแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องอุบัติเหตุที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสว่า รู้สึกเป็นห่วงบันไดเลื่อนก็เป็นส่วนหนึ่งของการคมนาคม คนใช้รถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดินมีหลายแสนคนต่อวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจากเหตุการณ์พิเศษ เพราะมีการจัดคอนเสิร์ตและมีคนจำนวนมากมาขึ้นรถไฟฟ้าพร้อมกัน เบื้องต้นรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ของภาคเอกชนแจ้งว่าไม่ได้เป็นปัญหาความบกพร่องของระบบ ก็ได้แจ้งรองผู้ว่าฯ วิศณุ ให้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่ามีปัญหาที่ตัวระบบหรือไม่ ต้องฟังหลาย ๆ ฝ่ายว่าปัญหาคืออะไร ต้องมีคนกลางเข้ามาดู
ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องการบริหารจัดการ กรณีนี้พอจะคาดการณ์ได้ระดับหนึ่งเพราะว่ารู้ล่วงหน้าว่าจะมีคอนเสิร์ต ต้องมีการดูตั้งแต่เริ่ม กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้อีก จึงต้องทบทวนวิธีปฏิบัติกรณีที่มีเหตุพิเศษหรือเหตุฉุกเฉินที่มีคนเข้ามาในชานชาลามากกว่าปกติ จริง ๆ แล้วบีทีเอสมีกรรมการกำกับดูแลอยู่ 1 ชุด ประชุมทุก 6 เดือน กทม. เป็นหนึ่งในกรรมการ การดูแลอาจมี 2 ทาง คือ กทม. ในฐานะเจ้าบ้านดูเรื่องความปลอดภัยของการคมนาคมทั้งส่วนที่เป็นอุปกรณ์และวิธีบริหารจัดการปกติ ขณะเดียวกันคณะกรรมการที่ควบคุมดูแลสัญญาก็ดูว่ามีอะไรที่ต้องทำตามเนื้อหาสัญญาหรือไม่ โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเป็นการหารือแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก
• การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก
พล.ต.อ. อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการชุมนุมที่ลานคนเมืองระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 65 ว่า การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี เมื่อวาน (21 ส.ค.) ได้มีการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ กทม. เจ้าที่ตำรวจ และตัวแทนผู้ชุมนุม การพูดคุยมีความร่วมมือกันดีตั้งแต่เรื่องของจุดคัดกรอง ความปลอดภัย การป้องกันมือที่สาม กิจกรรมที่ไม่เหมาะสม และกรณีคนที่จะแทรกตัวเข้ามา รวมทั้งพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 23-24 ส.ค. กทม. ดูแลในเรื่องการอำนวยความสะดวก ซึ่งผู้ชุมนุมได้มีการยื่นเรื่องการชุมนุมมาล่วงหน้าตามมาตรการที่กำหนด โดยประสานงานกับ สน.สำราญราษฎร์ ลานคนเมืองรองรับผู้มาชุมนุมได้ประมาณ 1,000 คน หากมีผู้ชุมนุมเพิ่มเข้ามาหรือมีการลงไปบนพื้นที่ผิวจราจรนั้นจะต้องมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนที่ก็จะต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งจะไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัย การรักษาความสะอาด ไม่มีการพักค้าง ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า กทม. มีหน้าที่เตรียมพื้นที่ชุมนุมสาธารณะตามกำลังที่มี แต่ถ้ามีการขยับผู้ชุมนุมลงมาบนพื้นถนนจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดูแล เหนือการควบคุมของ กทม. ซึ่งที่ผ่านมาบรรยากาศเป็นไปด้วยดีไม่ได้ส่งผลกระทบกับใคร อยู่ในกรอบที่ดี บรรยากาศที่สร้างสรรค์ สามารถฟังเนื้อหาได้ชัดเจนขึ้น เมื่อไม่มีการเบี่ยงประเด็นไปด้านอื่นก็จะทำให้สามารถฟังเนื้อหาการชุมนุมได้ชัดเจนขึ้น น่าจะมาถูกทางแล้วที่มีการเตรียมพื้นที่ในการชุมนุมให้ ส่วนเหตุการณ์วันที่ 23-24 ส.ค. จะเป็นอย่างไรก็จะต้องให้หลายหน่วยงานเตรียมความพร้อม นโยบายไม่ให้มีการค้างคืน เพราะบริเวณรอบลานคนเมืองมีคนอยู่อาศัยเยอะ เป็นบ้าน ร้านค้า วัด บางทีมีคนมาออกกำลังกายที่ลานคนเมือง จะต้องอะลุ่มอล่วยดูแลซึ่งกันและกัน สำหรับการชุมนุมที่ศาลฎีกา เรือนจำนั้นอยู่เหนือการควบคุมของ กทม. หากมีการร้องขอเรื่องห้องน้ำมาก็จัดให้ ได้เตรียมตัวรับมือให้ดีที่สุด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไปในทางที่รุนแรงและพยายามดูแลประชาชนให้ดีที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น