รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย 10 ปีสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ช่วยสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนให้แก่ประเทศ จัดหาวัคซีนที่จำเป็นให้คนไทยได้ทันเวลา ยกกรณีโควิดจัดหาวัคซีนได้ทุกแพลตฟอร์ม ขอให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนด้านวัคซีน โดยยึดความปลอดภัยและสุขภาพประชาชนเป็นหลัก
นายอนุทินปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บทบาทของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กับก้าวต่อไปเพื่อความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ” มีใจความตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารใหม่ของสถาบันเอง จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อขยายการให้บริการของสถาบันวัคซีนแห่งชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์โรคโควิด 19 ทำให้สถาบันวัคซีนฯ ได้รับการยกระดับ และทำให้รัฐบาลเห็นความสำคัญในการสนับสนุน โดยเฉพาะงบประมาณในการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศ เช่น คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัคซีนของบริษัทใบยาฯ หรือบริษัทไบโอเนท-เอเชีย เป็นต้น รวมถึงการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนครบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งชนิดเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ mRNA และโปรตีนซับยูนิทมีวัคซีนเข้ามาดูแลประชาชนตามแผน Roadmap ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีมาตรฐาน
“ที่ผ่านมาสถาบันวัคซีนแห่งชาติมีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์โควิด 19 เช่น การเสนอให้ฉีดสูตรไขว้ หรือการฉีดวัคซีนใต้ผิวหนังที่ช่วยให้มีวัคซีนฉีดได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า หากไม่ได้รับการจัดส่งวัคซีนตามที่ต้องการ ซึ่งทั้งหมดที่กระทรวงสาธารณสุขและสถาบันวัคซีนแห่งชาติดำเนินการก่อประโยชน์มหาศาลให้กับประชาชน ทำให้ประเทศเกิดความมั่นคงด้านวัคซีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ขอให้บุคลากรทุกคนของสถาบันฯ ได้ภาคภูมิใจ และขอให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยยึดงานวิชาการและความปลอดภัยสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงให้ข้อมูลสนับสนุนการออกนโยบายแก่กระทรวงสาธารณสุขได้” นายอนุทินกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น