นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัคิ(พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และว่าด้วยพรรคการเมืองและอดีตกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พร้อม ส.ส.พรรคก้าวไกลร่วมแถลงถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 65 รัฐสภามีมติให้ร่างกฎหมายประกอบฯว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 ว่าการคำนวณดังกล่าวไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ได้แก้ไขไปแล้วในขณะที่พรรคมีจุดยืนมาโดยตลอดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องมาจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ซึ่งมาจากประชาชน แต่เมื่อรัฐสภาทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้วเพียง 3 มาตราการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจึงจำเป็นจะต้องแก้ไขให้สอดรับกัน ให้การเลือกตั้งเป็นแบบคู่ขนานใช้สูตรคำนวณหารด้วย 100 แต่ในระยะไม่นานนี้ฝ่ายรัฐบาลกลับเปลี่ยนท่าทีในการแก้ไขสูตรคำนวณเป็นการหารด้วย500 จนมีมติออกมาในลักษณะดังกล่าว ทำให้สงสัยได้ว่ามีการแทรกแซงจากฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ดีเห็นว่าระบบการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิม
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่เสนอแปรญัตติว่าตนเห็นว่าร่างกฎหมายเลือกตั้งที่กรรมาธิการส่วนใหญ่เสนอ ไม่รอบคอบ ไม่สอดคล้องกับหลักการของกฎหมายตั้งแต่ต้นที่ต้องการให้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขสอดคล้องกับฉบับปี40 และกฎหมายประกอบฯ ต้องสอดคล้องกับฉบับปี 54ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุ ผิดหวังต่อมติดังกล่าวที่เกิดขึ้น และตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นอิสระในทำหน้าที่ของส.ว. โดยเฉพาะการออกเสียงต่อร่างกฎหมายดังกล่าว และยืนยันจากนี้พรรคจะยังทำหน้าที่อย่างดีที่สุดโดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ที่จะถึงนี้
ขอบคุณภาพและข่าจากเพจวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา :ลักขณา เทียกทองข่าว/เรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น