ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.65 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ชั้น 3 อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ คืบหน้าไปมาก โดยโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์ม “สลากดิจิทัล” มีตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล จำนวน 10,258 ราย และในเบื้องต้นจะมีสลากจำนวน 5,279,500 ฉบับ พร้อมที่จะจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ ผ่านแอปเป๋าตัง ซึ่งการจำหน่ายสลากดิจิทัล เป็นการจำหน่ายโดยตัวแทนรายย่อย ที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯ โดยตรง สลากทุกใบเป็นของตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อ จะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ ให้กับตัวแทนรายย่อยอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อชำระค่าสลากเรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์ในสลากจะตกเป็นของผู้ซื้อ จะไม่สามารถนำไปซื้อ-ขายได้อีก ถือว่ามีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งในเรื่องกรรมสิทธิ์ และเรื่องการรับเงินรางวัล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มแล้ว ยังมีความคืบหน้า โครงการจุดจำหน่าย "สลาก 80" ซึ่งขณะนี้ เปิดให้บริการแล้ว 362 จุด ใน กทม. ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และได้มีการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายภาคเหนือ และภาคใต้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ในงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ครบทุกจังหวัด และหลังจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะเรียกผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละจังหวัด โดยกำหนดสัดส่วนของจุดจำหน่ายที่เพิ่มเติมในแต่ละจังหวัดตามจำนวนของประชากรในพื้นที่ และให้เพิ่มเติมจุดจำหน่ายในเขต/อำเภอที่มีจำนวนของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกลำดับสำรองโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสลากครบ 1,000 จุด ทั่วประเทศตามที่สำนักงานสลากฯ ตั้งเป้าหมายไว้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากในทุก ๆ ด้าน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทั้งการตรวจสอบการเบิกสลาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เพื่อป้องปรามและสำรวจการจำหน่ายสลากของคนขายจริง รวมถึง การหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งในระยะยาว ตลอดจนการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย การปรับปรุงบทลงโทษ การนำมาตรการทางแพ่ง อาญา และกฎหมายอื่นๆ มาประกอบการพิจารณา รวมถึงการศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เพื่อให้ได้ข้อสรุปมาประกอบการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ร่วมกับมาตรการต่างๆ ของสำนักงานสลากฯ ต่อไป
.
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มแล้ว ยังมีความคืบหน้า โครงการจุดจำหน่าย "สลาก 80" ซึ่งขณะนี้ เปิดให้บริการแล้ว 362 จุด ใน กทม. ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และได้มีการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายภาคเหนือ และภาคใต้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ในงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ครบทุกจังหวัด และหลังจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะเรียกผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละจังหวัด โดยกำหนดสัดส่วนของจุดจำหน่ายที่เพิ่มเติมในแต่ละจังหวัดตามจำนวนของประชากรในพื้นที่ และให้เพิ่มเติมจุดจำหน่ายในเขต/อำเภอที่มีจำนวนของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกลำดับสำรองโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสลากครบ 1,000 จุด ทั่วประเทศตามที่สำนักงานสลากฯ ตั้งเป้าหมายไว้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากในทุก ๆ ด้าน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทั้งการตรวจสอบการเบิกสลาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เพื่อป้องปรามและสำรวจการจำหน่ายสลากของคนขายจริง รวมถึง การหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งในระยะยาว ตลอดจนการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย การปรับปรุงบทลงโทษ การนำมาตรการทางแพ่ง อาญา และกฎหมายอื่นๆ มาประกอบการพิจารณา รวมถึงการศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เพื่อให้ได้ข้อสรุปมาประกอบการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ร่วมกับมาตรการต่างๆ ของสำนักงานสลากฯ ต่อไป
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น