พม. ช่วยเด็กออติสติกแผลเต็มตัว กรณี Social Media เผยแพร่ หวั่นถูกทำร้ายจากสถานรับดูแลเอกชน ย่านบางพลี

จากกรณีข่าว แม่ช็อกลูกสาวออทิสติกวัย 8 ปี มีแผลเต็มตัวหลังกลับจากโรงเรียนประจำ จากช่องทาง Social Media เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ประสาน ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ (พมจ. สมุทรปราการ) ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดสมุทรปราการ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อประสานติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าผู้ปกครองของเด็กมีภูมิลำเนาและทำงานในจังหวัดนครปฐม ได้ฝากลูกที่เป็นออทิสติกไว้กับสถานกระตุ้นพัฒนาการเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง (โรงเรียนประจำ) ย่านตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่ปี 2563 โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงเรียนประจำแจ้งว่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงแนะนำผู้ปกครองให้ฝากลูกไว้ที่ โรงเรียน และส่งภาพถ่ายให้ดูเป็นระยะ แต่ในช่วงหลังผู้ปกครองสังเกตว่าลูกผอมลงมากและรับทราบว่าเด็กไม่ค่อยรับประทานอาหาร

จากนั้น ผู้ปกครองได้ขอรับลูกและนำฝากเลี้ยงที่ศูนย์ดูแลเด็กที่จังหวัดลำปาง ซึ่งมีคุณตาคุณยายของเด็กช่วยดูแลด้วยอีกทาง และได้สังเกตเห็นว่าข้อเท้าและก้นเด็กมีบาดแผลร่องรอยความผิดปกติ จึงได้นำตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ศูนย์พึ่งได้ OSCC โรงพยาบาลลำปาง เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำการตรวจประเมินร่างกาย รักษาบาดแผล พร้อมกับให้นักสังคมสงเคราะห์ วินิจฉัยทางสังคม ซึ่งพบว่าปัญหาการบาดเจ็บอาจเกิดจากการทารุณกรรมหรือการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเบื้องต้นทีมนักสังคมสงเคราะห์จังหวัดลำปาง ได้ช่วยเหลือ และจัดทำแผนการคุ้มครองเด็กตาม พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว

ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค. 65) พม.จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินการนัดหมายลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่ตามที่ปรากฏข้อมูลในข่าว (สถานกระตุ้นพัฒนาการเด็กเอกชน) ซึ่งอยู่ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว เพื่อตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง ซึ่ง พม. ได้ร่วมดำเนินการตรวจสอบการจดทะเบียน และใบอนุญาตสถานประกอบการด้านต่างๆ ว่าสามารถรับเลี้ยงดูแลเด็กพิการได้หรือไม่ รวมถึงการดำเนินกิจการของศูนย์ฯ และร่วมตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายต่อไป