โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการ HI City มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในญี่ปุ่น ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ท้องถิ่น และเอกชน รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมศูนย์วิจัยและทดลองเทคโนโลยีล้ำสมัยด้านการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เทคโนโลยีหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robotics) เทคโนโลยีทางการแพทย์ สถานีไฮโดรเจน นอกจากนี้ HI City ยังเป็แหล่งรวมร้านค้า โรงแรม สำนักงาน ศูนย์จัดการประชุมและการแสดงที่ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้อย่างลงตัว เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมเข้าถึงทั้งเทคโนโลยีและวัฒนธรรม
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีด้านเมืองอัจฉริยะของญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ซึ่งมีโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในนิคมอุตสาหกรรม AMATA Smart City จังหวัดชลบุรี ตลอดจนเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีศักยภาพ
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เวลา 14.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กลับประเทศไทย โดยเดินทางถึงประเทศไทยเวลา 19.50 น. ตามเวลาประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีด้านเมืองอัจฉริยะของญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ซึ่งมีโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในนิคมอุตสาหกรรม AMATA Smart City จังหวัดชลบุรี ตลอดจนเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีศักยภาพ
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เวลา 14.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กลับประเทศไทย โดยเดินทางถึงประเทศไทยเวลา 19.50 น. ตามเวลาประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น