นายกรัฐมนตรีพบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ขอให้คนไทยร่วมเป็นทูตวัฒนธรรมในต่างประเ ทศ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

นายกรัฐมนตรีพบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ขอให้คนไทยร่วมเป็นทูตวัฒนธรรมในต่างประเ ทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  12 พฤษภาคม2565 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ห้อง George Washington โรงแรม St. Regis พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้มาพบชาวไทยทุกคนในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมแรกในการเดินทางมาสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาเป็นชุมชนไทยที่ใหญ่ที่สุดในต่างประเทศ และเป็นที่ชื่นชมในความเข้มแข็งที่มีชาวไทยที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญประกอบอาชีพแตกต่างหลากหลายกันไป

โดยการเดินทางมาในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเดินทางมาพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรีดอน ปรมัตถ์วินัย และรองนายกรัฐมนตรีสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และคณะ เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือหลากหลายมิติ โดยหวังว่าจะสามารถเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ เพื่อนำประโยชน์มายังคนไทยทุกคน โดยครั้งนี้ยังจะมีโอกาสได้พูดคุยกับคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างโอกาสการลงทุนในประเทศไทย กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสร้างงานและอาชีพที่จะมีความยั่งยืนสำหรับคนไทย ซึ่งนักธุรกิจสหรัฐฯ ก็เล็งเห็นถึงโอกาสและให้ความสนใจกับการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะกิจการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิต และการพัฒนาบุคลากร การจ้างงาน และประเทศไทย รวมทั้งจะได้มีโอกาสพูดคุยกันในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบทั่วโลก และเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นนโยบายหลักของชาติ

นอกจากนี้ ยังจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะสื่อสารและสร้างความเชื่อมั่นต่อทั้งภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ ต่อการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ความพร้อมทางทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐาน และบุคลากรที่มีคุณภาพ พร้อมฟื้นเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยทิศทางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ดีขึ้นในไทย ซึ่งเป็นผลจากการทำงานอย่างเต็มที่ของบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และทุกภาคส่วน จนทำให้การรับมือและการบริหารจัดการของไทยเป็นที่ยอมรับ และชื่นชมไปทั่วโลก โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้าเปิดประเทศอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาครึกครื้นในไม่ช้า ด้วยความเป็นมิตรที่ดี ความเป็นเจ้าบ้านที่ดี กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกของคนไทย นอกจากนี้ ไทยยังมี soft power ที่เป็นเสน่ห์และจุดแข็งที่สามารถดึงดูดชาวต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีหวังว่าชุมชนไทยทุกคนจะช่วยสื่อสารสร้างความเข้าใจในเอกลักษณ์และความงดงาม เสมือนเป็นทูตวัฒนธรรมตัวแทนประเทศไทย เชื่อมโยงให้เกิดมิตรภาพและความร่วมมือในระดับประชาชน อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งของความสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ และความร่วมมือต่าง ๆ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปี 2565 ไทยมีภารกิจสำคัญในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” (Open. Connect. Balance.) เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG โดยชาวไทยจะได้ต้อนรับผู้แทนเขตเศรษฐกิจที่มาเข้าร่วมประชุมตลอดทั้งปี รวมทั้งผู้นำเขตเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นเกียรติภูมิของประเทศแล้ว จะเป็นโอกาสให้ได้พูดคุยกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันโดยเฉพาะในมิติเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นโอกาสในการผลักดันให้มีผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำว่า ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไทยในต่างประเทศ และพยายามพบปะพูดคุยทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทาง จึงหวังที่จะเห็นความสมัครสมาน สามัคคี และการช่วยเหลือเอื้ออาทร โดยยินดีที่ชุมชนไทยในสหรัฐฯ จัดกิจกรรม เพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลพร้อมจะให้ความช่วยเหลือดูแลชุมชนไทยอย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณชุมชนไทยที่ให้กำลังใจและร่วมกันจนเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และหวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการพบปะพูดคุยในวันนี้ พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานขับเคลื่อนประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน

ทั้งนี้ ที่สหรัฐอเมริกามีชาวไทยอาศัยอยู่ประมาณ 316,000 คน (ข้อมูลตาม U.S. Census 2020) ซึ่งถือเป็นชุมชนไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียและภาคตะวันตกของสหรัฐฯ โดยกรุงวอชิงตันและบริเวณรัฐใกล้เคียง (แมริแลนด์ และเวอร์จิเนีย) มีชาวไทยอาศัยอยู่รวมประมาณ 21,400 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น