องค์การอนามัยโลกชื่นชมระบบจัดการโควิด19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากล - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

องค์การอนามัยโลกชื่นชมระบบจัดการโควิด19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากล

องค์การอนามัยโลกชื่นชมระบบจัดการโควิด19 ในประเทศไทย พร้อมจะนำไปพัฒนาเป็นรูปแบบที่เป็นสากล และใช้กับบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ด้านรองนายกรัฐมนตรี “อนุทิน” เชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health ที่ประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมคณะได้มีโอกาสพบเพื่อหารือกับ นาย Tedros Adhanom Ghrebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงความร่วมในโครงการต่าง ๆ ระหว่างประเทศไทยกับ WHO

ในการพบหารือ นาย Tedros และ ดร. Poonam Khetrapal Singh ผู้อำนวยการ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวชื่นชมไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง WHO และจะนำรูปแบบ รวมถึงระบบการบริหารจัดการของประเทศไทย ไปเป็นแบบอย่างที่จะสร้างให้เป็นมาตรฐานสากล และใช้ในการบริหารสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก

“ผู้บริหาร WHO ชื่นชมความสำเร็จในการจัดการโควิด19 ของประเทศไทย การฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรมากกว่า 70% ตามเป้าหมายของ WHO ซึ่งปัจจุบันไทยฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุม 81.4% เข็มที่2 จำนวน 75.3% ของประชากรทั้งประเทศ และขอบคุณที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ ของ WHO อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ WHO Biohub ซึ่งเป็นคลังสำหรับเก็บเชื้อเพื่อวิจัย และการแบ่งปันเชื้อ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาและวิจัยวัคซีนสำหรับป้องกันโรคอุบัติใหม่ต่าง ๆ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ได้เชิญนาย Tedros เข้าร่วมการประชุม APEC High Level Meeting on Health and the Economy ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. 2565 ที่กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค โดยการประชุมครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสามาชิกเอเปคเข้าร่วมหารือกันภายใต้หัวข้อ เปิดกว้างเพื่อความร่วมมือ เชื่อมต่อกับโลก สร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์การประชุมดังกล่าว ประเทศไทยจะเปิดสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) รองนายกรัฐมนตรีจึงเชิญผู้อำนวยการใหญ่ WHO ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้ขอบคุณที่ WHO เลือกประเทศไทยเพื่อเป็นประเทศนำรองในการดำเนินกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า จากการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด19 (UHPR) โดยผลการดำเนินโครงการไทยสามารถบริหารจัดการการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเทศไทยพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์กับประเทศต่าง ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก นาย Tedros ได้รับการเลือกตั้งจากประเทศสมาชิก WHO 194 ประเทศให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ WHO เป็นสมัยที่2 โดยในวาระแรกได้เริ่มดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560 และจะครบวาระสิ้นเดือน มิ.ย. 2565 นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น