นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือชายพิการดังกล่าว ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ได้ประสานศูนย์เอราวัณ รับตัวและส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรเวช ตามสิทธิบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับคนพิการ (ท.74) ซึ่งมีประวัติการรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลดังกล่าว และในระยะต่อไป จะต้องประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 25 ห้วยขวาง ติดตามประเมินอาการ และประสานโรงพยาบาลเพชรเวช ในการติดตามการรักษาและประสานกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เพื่อช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า วานนี้ (25 พ.ค. 65) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คุณอดิศร โพธิ์อ่าน ผู้ประสานงานในพื้นที่ขุมชนเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ได้ประสานมายังตนเพื่อขอความช่วยเหลือชายพิการถูกพี่ชายกักขังไว้ภายในบ้านนาน 3 วัน ทั้งนี้ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับคุณอดิศรฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร (บ้านมิตรไมตรีดินแดงและบ้านมิตรไมตรีห้วยขวาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตห้วยขวาง ประธานชุมชนและกรรมการชุมชนสุนทรศิริที่ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 6 แยก 4 (ซอยสุนทรศิริ) แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พบว่า ชายพิการดังกล่าว อายุ 63 ปี เป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย สภาพร่างกายรูปร่างผอม สวมกางเกงแต่ไม่สวมเสื้อ ขาดการดูแลความสะอาดของร่างกาย พูดไม่ชัด ให้ข้อมูลได้เพียงเล็กน้อย และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อีกทั้งมีรอยแผลถูกทำร้ายตามร่างกาย และมีลักษณะอ่อนเพลีย เนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารนาน 3 วัน โดยอาศัยอยู่กับพี่ชายฝาแฝด อายุ 63 ปี มีลักษณะคล้ายบุคคลมีอาการป่วยทางจิต มีพฤติกรรมเก็บตัว เหม่อลอย พูดจาวกวนเป็นบางครั้ง และอารมณ์แปรปรวน ในขณะที่มารดาเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด - 19 เมื่อประมาณต้นปี 2564 นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปว่า ชายพิการดังกล่าวมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท ปัจจุบัน บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ อีกทั้งไม่ได้รับการดูแลเรื่องความสะอาด การรับประทานอาหาร และการพบแพทย์ตามนัด ซึ่งขณะที่ทีมสหวิชาชีพจะเข้าบ้านเพื่อไปช่วยเหลือชายพิการ แต่รั้วบ้านถูกใส่กุญแจล๊อคไว้จากด้านใน เนื่องจากพี่ชายไม่ยินยอมให้เปิดประตูรั้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานครต้องปีนรั้วเข้าทางด้านหลังเพื่อเข้าไปในบ้าน จากนั้น ได้พูดคุยเจรจาให้พี่ชายยินยอมเปิดประตูรั้วบ้าน เพื่อนำตัวชายพิการซึ่งมีแผลตามร่างกาย สภาพอ่อนแรง เนื่องจากไม่ได้ทานอาหารมานาน 3 วัน ออกจากบ้านและรีบส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น