นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรม“ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร”ในงาน“ใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางมิลลิเซนต์ ครุซ-ปาเรเดส เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม เครือข่ายทางวัฒนธรรม และผู้แทนชุมชนอาเซียนเข้าร่วม ณ ศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน ชั้น 3 หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน
นายอิทธิพล กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชน จัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบปีการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และพระมหากษัตริย์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความผาสุกและความเจริญในทุกๆด้าน สืบมาจนถึงปัจจุบันครบรอบ 240 ปีแห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในความเป็นไทยร่วมกัน รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนสินค้าของชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ปีนี้งาน“ใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดขึ้นวันที่ 20-24 เมษายน 2565 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โรงละครแห่งชาติ และบริเวณพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯใน 9 พื้นที่หลักและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม 20 แห่ง ซึ่งกิจกรรมส่วนหนึ่งเผยแพร่ความรู้ชุมชนในไทยและชุมชนต่างชาติในกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาคต่างๆ นับตั้งแต่สมัยอยุธยาสืบเนื่องมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์โดยเมื่อปีพ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานี มีชาวต่างชาติทั้งที่อพยพย้ายถิ่นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและอพยพมาใหม่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงใช้ทศพิธราชธรรมปกครองพสกนิกรชาวไทย และทรงแผ่พระบารมีไปยังชาวต่างชาติโดยพระราชทานสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพ การปฏิบัติประเพณีและนับถือศาสนา อีกทั้งพระราชทานที่ดินให้อยู่อาศัยแยกตามเชื้อชาติและศาสนา ก่อเกิดเป็นชุมชนและย่านตามรูปแบบทางวัฒนธรรมและศาสนาที่คล้ายคลึงกัน
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า วธ.จึงจัดนิทรรศการเกี่ยวกับชุมชนในไทยและชุมชนต่างชาติใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารใน 2 พื้นที่ ได้แก่ 1) พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดนิทรรศการ“ชุมชนใต้ร่มพระบารมี” ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาและอัตลักษณ์ชุมชน เช่น สถาปัตยกรรม งานหัตถกรรมและช่างฝีมือ อาหาร การแต่งกายของชุมชนในกรุงเทพฯ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก และ2) ศูนย์อาเซียน ชั้น 3 หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน จัดนิทรรศการ “ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร” วันที่ 20 - 24 เมษายน 2565 เวลา 10.00-19.00 น. เผยแพร่องค์ความรู้การตั้งถิ่นฐานของชุมชนอาเซียนดั้งเดิมในกรุงเทพฯ 6 กลุ่ม ได้แก่ เขมร ญวน พม่า มอญ ลาว และมุสลิม
พร้อมนำเสนออัตลักษณ์ ขนบประเพณีของชุมชนอาเซียนที่อยู่อาศัยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารอย่างร่มเย็นเป็นสุขตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และวันที่ 23-24 เมษายน 2565 มีกิจกรรมบรรยายและเสวนา“ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร” การสาธิตด้านอาชีพและอาหารโดยผู้แทนชุมชนอาเซียน ได้แก่ ย่านเขมร ชุมชนบ้านบาตรสาธิตการทำบาตร ย่านพม่า ชุมชนตลาดพระโขนงออกร้านขายเครื่องอุปโภคบริโภค ย่านมอญ จัดแสดงข้าวแช่จากบางลำพู ย่านลาว ชุมชนบางไส้ไก่สาธิตการทำขลุ่ย และย่านมุสลิม จัดแสดงแกงมัสมั่นจากชุมชนมัสยิดจักรพงษ์ ทั้งนี้ วธ.ขอเชิญชวนประชาชนชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมทั้งสองพื้นที่โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น