นายกฯ ย้ำรัฐบาลเตรียมออกมาตรการดูแลประชาชน บรรเทาผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน เตรียมตรึงราคาก๊าซหุงต้มช่วยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ร้านอาหารที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง พร้อมดูแลต้นทุนการผลิตภาคเกษตร แรงงาน กลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 เวลา 11.55 ณ บริเวณทางเชื่อม ตึกภักดีบดินทร์และตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการบริหารรัฐวิสาหกิจทั้ง 50 กว่าแห่ง รวมทั้งรับทราบผลการปฏิบัติงานประจำปีที่ผ่านมาของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีทั้งหน่วยงานที่มีผลประกอบการดีขึ้นมาก ดีขึ้นเล็กน้อย และหน่วยงานที่ยังมีการขาดทุน เนื่องจากเป็นหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจที่ต้องให้บริการประชาชน ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการทบทวนบทบาทว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้สามารถมีรายได้เพิ่มเติมขึ้น พร้อมกับดูแลประชาชนให้ได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าเรื่องการจัดหาหัวรถจักร ซึ่งขณะนี้กำลังทยอยเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงเรื่องของรถเมล์รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเสริมการให้บริการประชาชน โดยคาดว่าภายในปีนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งรัฐบาลก็จะเร่งดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็วภายใต้งบประมาณที่มีอยู่เพื่อดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงมาตรการในการดูแลผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นจนทำให้ส่งผลต่อราคาน้ำมันและพลังงานเพิ่มขึ้น ตลอดจนส่งผลไปยังราคาสินค้าอื่น ๆ ที่ขึ้นราคาตามมาด้วยนั้น ขณะนี้รัฐบาลพยายามที่จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 ต่อลิตรไปก่อน ขณะที่ราคาจริงของน้ำมันดีเซลยังสูงกว่าที่รัฐบาลตรึงราคาไว้ โดยที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณจากกองทุนพลังงานมาช่วยดูแลเรื่องนี้ซึ่งก็ติดลบอยู่ในปัจจุบัน จึงต้องหาเงินในส่วนอื่นเข้ามาเติมในส่วนนี้ ซึ่งรัฐบาลต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดเพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมต่อไป โดยช่วงนี้หากสามารถดำเนินการได้ไปจนถึงที่สุดของงบประมาณที่มีอยู่ ก็อาจมีการพิจารณามาตรการอื่นเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันเพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ โดยในส่วนของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มภายใต้การใช้จ่ายงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดูแลช่วยเหลือในส่วนของแรงงานซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกันว่า รัฐบาลจะมีการพิจารณาลดค่าใช้จ่ายของนายจ้างและลูกจ้าง โดยมอบหมายให้กองทุนประกันสังคมไปพิจารณาดำเนินการ รวมถึงการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ก็จะให้มีการเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม รวมไปการดูแลด้านการเกษตรทั้งเรื่องอาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี ที่ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปพิจารณามาตรการช่วยเหลือในเรื่องปุ๋ยเคมีราคาแพง การลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร และสนับสนุนให้มีการหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยสั่งตัดให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด
รวมทั้งรัฐบาลได้มีการดูแลในส่วนของประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย โดยกำลังมีการพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้นผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซหุงต้ม LPG ให้กับกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม LPG สำหรับกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง การดูแลช่วยเหลือค่าไฟฟ้า การช่วยราคาน้ำมันเบนซินสำหรับกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือผู้ค้า NGV ช่วยตรึงราคาก๊าซ NGV ในช่วงวิกฤติพลังงานไปก่อน พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้เกิดความเป็นธรรม ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือให้บรรดาธุรกิจภาคเอกชนช่วยกันลดราคาสินค้าลงบ้าง และขอให้ประชาชนทุกฝ่ายรวมทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพราะวิกฤติการณ์ครั้งนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวผ่านพ้นไปให้ได้ โดยรัฐบาลพยายามเร่งพิจารณาดำเนินการอย่างเต็มที่ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลสรุปของมาตรการภายในอาทิตย์นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น