รมว.สุชาติ หนุนพัฒนาช่างแอร์ IoT สั่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งต่อยอดรับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565

รมว.สุชาติ หนุนพัฒนาช่างแอร์ IoT สั่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งต่อยอดรับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ


กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยึดแนวทางประชารัฐจับมือเอกชน พัฒนาช่างแอร์ IoT บริการประชาชน เพิ่มโอกาสมีหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.00 น. นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศเสริมทักษะ IoT ณ ห้องประชุมเลอโลตัส 2 โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพมหานคร โดยนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยหลังจาการลงนามดังกล่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการตามแนวทางประชารัฐของรัฐบาลในการบูรณาการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ในการพัฒนาฝีมือแรงงานเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานและให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ สร้างสังคมปลอดภัย ซึ่งในวันนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด องค์กรชั้นนำด้านระบบเครื่องปรับอากาศ พัฒนาทักษะช่างเครื่องปรับอากาศเสริมทักษะ IoT ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีระบบปรับอากาศในปัจจุบันรองรับความต้องการของตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการใช้งานเครื่องปรับอากาศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


นายประทีป ทรงลำยอง กล่าวต่อไปว่า โดยปัจจุบันเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ได้เข้ามามีบทบาทและความสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การสั่งเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้าน ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ สมาร์ทโฟน หรือแท็ปแล็ต เป็นต้น ทั้งสองหน่วยงานจึงร่วมมือกัน จัดฝึกอบรมหลักสูตรเทคโนโลยี IoT เพื่อการประยุกต์การใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ (ระยะเวลาการฝึกอบรม 18 ชั่วโมง) ในพื้นที่ 10 จังหวัด มีผู้ผ่านการฝึกอบรม 205 คน และเพื่อเป็นการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมเป้าหมายมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดฝึกอบรมเพิ่มเติมอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ สกลนคร สงขลา และกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะมีผู้เข้ารับฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 80 คน โดยการฝึกอบรมดังกล่าวมุ่งเน้นสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยในการทำงานเครื่องมืออุปกรณ์และหลักการทำงานของเทคโนโลยี IoT ร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า การติดตั้งและการลงทะเบียนโปรแกรมกับเครื่องปรับอากาศ การยืนยันตัวตนและการตั้งค่าเพื่อการใช้งาน และทดสอบการควบคุมระยะไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในสมาร์ทโฟน หรือแท็ปแล็ต นอกจากนี้ผู้ผ่านการฝึกอบรมยังได้รับสิทธิ์ในการเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1 ซึ่งต่อยอดในการมีหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ


“ทั้งนี้ บริษัทยังให้การสนับสนุนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์มูลค่า 1.5 ล้านบาท และองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ ให้มีความรู้ความสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยด้วย ความร่วมมือครั้งนี้จึงมีส่วนสนับสนุนในการสร้างช่างฝีมือแถวหน้าของประเทศที่พร้อมให้บริการประชาชน ช่างสามารถเข้าถึงการจ้างงานได้ง่ายขึ้น เพิ่มรายได้ในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว และมีส่วนสำคัญต่อการสร้างความปลอดภัยสาธารณะ ลดการเกิดอุบัติเหตุ และความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินด้วย” อธิบดีกพร. กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น