นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อระหว่างวันที่ 25-26 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ และขับเคลื่อนความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ รวมทั้งให้ผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานเพื่อให้สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานในซาอุดีอาระเบียโดยเร็วที่สุด ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขานรับนโยบายดังกล่าวและเร่งรัดการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการเดินทางไปเยือนซาอุ ตลอดระยะเวลาร่วม 50 วันที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานมุ่งมั่นเพื่อให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ข้อตกลงด้านแรงงานได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ผมได้มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล-นาอีม (Dr. ADNAN ABDULLAH M. ALNUIM) Deputy of minister for International affair กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมด้วย
นายสุรชัย กล่าวว่า ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ที่ท่านดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล-นาอีม และคณะ ได้มาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียจะได้กระชับความสัมพันธ์ด้านแรงงานให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านแรงงาน ซึ่งการประชุมวิชาการในครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นและมีความคืบหน้าไปมาก เชื่อว่าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียจะสำเร็จและเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะข่าวดี ข้อตกลงด้านแรงงานได้ข้อยุติและแล้วเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการลงนามเพียงอย่างเดียว ซึ่งท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จะเร่งรัดให้มีการลงนามโดยเร็วที่สุดเพื่อให้สามารถจัดส่งแรงงานได้
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีคนหางานแจ้งความประสงค์ไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ E–service เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th แล้วกว่า 1,000 คน อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ การทดสอบฝีมือแรงงาน และการตรวจสอบตำแหน่งที่สมัครว่าตรงตามที่ทางซาอุดีต้องการหรือไม่ ส่วนการเดินทางไปลงนามข้อตกลงในวันที่ 28 มีนาคมนี้ตามที่ฝ่ายซาอุเห็นด้วยนั้น กระทรวงแรงงานจะได้หารือในการกำหนดรายละเอียดของการเดินทางในครั้งนี้ นอกจากจะลงนามข้อตกลงแล้ว จะได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน ดูสภาพการจ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการนำมาเผยแพร่ให้คนไทยได้เห็นสภาพการทำงานของซาอุดีอาระเบียอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียนั้น แรงงานถือเป็นกลุ่มแรกที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งทางการไทยต้องขอความร่วมมือทางการซาอุในประเด็นต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องการส่งออกสินค้าของไทย อาหารสัตว์ สินค้าทางทะเล รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่ทันสมัย ที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวที่ต้องการให้คนซาอุมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้มากขึ้น
“กระทรวงแรงงานขอขอบคุณและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้จะกระชับความสัมพันธไมตรีกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม เพื่อร่วมกันผลักดันโอกาสของแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบีย รวมถึงให้การคุ้มครองแก่แรงงานอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศ” นายสุรชัย กล่าวในท้ายสุด
ด้าน ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล-นาอีม รัฐมนตรีช่วยด้านต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ขอบคุณผู้บริหารกระทรวงแรงงานของไทย ที่ให้ความสำคัญทำให้เราได้มีการประชุมร่วมกันทั้ง 2 วันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ทำให้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศเป็นไปด้วยดี และยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในโอกาสการเดินทางไปลงนามข้อตกลงด้านแรงงานในวันที่ 28 มีนาคมที่จะถึงนี้ ทางฝ่ายซาอุเองจะได้จัดเตรียมโปรแกรมต่างๆ เอาไว้ รวมถึงให้มีการประชุมเตรียมการในการเดินทางครั้งนี้ จัดทำกำหนดการต่างๆ เพื่อให้แรงงานไทยที่ต้องการมาทำงานได้เห็นสภาพการทำงาน รวมทั้งการเยี่ยมชมสถานประกอบการต่างๆ ในซาอุดีอาระเบียด้วย จากความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้คนซาอุดีจะเดินทางมาประเทศไทย โดยเฉพาะการเดินทางมาท่องเที่ยวส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น