วธ.เผยผลโพลวันมาฆบูชา ปี 2565 ร้อยละ 66.61 เห็นว่ามีความสำคัญเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” ร้อยละ 43.35 อยากตักบาตรมากที่สุด - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

วธ.เผยผลโพลวันมาฆบูชา ปี 2565 ร้อยละ 66.61 เห็นว่ามีความสำคัญเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” ร้อยละ 43.35 อยากตักบาตรมากที่สุด


วธ.เผยผลโพลวันมาฆบูชา ปี 2565 ร้อยละ 66.61 เห็นว่ามีความสำคัญเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” ร้อยละ 43.35 อยากตักบาตรมากที่สุด รองลงมาทำบุญ ทำทานและลด ละ เลิก อบายมุข ส่วนใหญ่แนะจัดกิจกรรมรูปแบบออนไลน์ในช่วงโควิด-19

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนที่มีต่อวันมาฆบูชา ปี 2565 (16 กุมภาพันธ์ 2565) จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 6,651 คน ครอบคลุมทุกอาชีพและทุกภูมิภาค โดยมีผลสรุปดังนี้ เด็ก เยาวชนและประชาชน ร้อยละ 66.61 เห็นว่า วันมาฆบูชามีความสำคัญคือ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรกในวันเพ็ญเดือน 3 รองลงมาร้อยละ 62.98 เป็นวันพระสงฆ์ล้วนเป็นพระอรหันต์มาชุมนุมพร้อมกัน 1,250 รูป โดยมิได้นัดหมาย ร้อยละ 54.19 มีการเผยแผ่หลักคำสอนของพระพุทธศาสนา คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ อีกทั้งผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 43.35 สนใจเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชาในปีนี้ รองลงมาร้อยละ 39.87 ไม่แน่ใจแล้วแต่โอกาส และร้อยละ 16.78 ไม่สนใจเข้าร่วมเนื่องจากกลัวติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไม่อยากออกจากบ้าน ไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นต้น

รมว.วธ. กล่าวอีกว่า เมื่อสอบถามถึงกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาที่สนใจอยากเข้าร่วม 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ตักบาตรพระสงฆ์ อันดับ 2 ทำบุญ ทำทาน อันดับ 3 ลด ละ เลิก อบายมุข อันดับ 4 ฟังพระธรรมเทศนาและอันดับ 5 เวียนเทียน ส่วนรูปแบบการจัดกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ตอบแบบสอบถามระบุอันดับ 1 จัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ และอันดับ 2 จัดกิจกรรมทั้งรูปแบบปกติและรูปแบบออนไลน์ควบคู่กัน ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถามในฐานะเป็นพุทธศาสนิกชนตั้งใจนำหลักธรรมมายึดถือปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ได้แก่ อันดับ 1 สติ อันดับ 2 ศีล 5 อันดับ 3 อริยสัจ 4 ( ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) อันดับ 5 อิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) และอันดับ 5 พรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)

นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า ผลสำรวจได้สอบถามถึงวิธีจูงใจให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชามากขึ้น 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 พ่อ แม่/ปู่ย่า ตายาย/ญาติ พี่น้อง พาลูกหลานเข้าร่วมกิจกรรมวันมาฆบูชา อันดับ 2 หน่วยงานรัฐ เอกชน ประชาชน และคณะสงฆ์ บูรณาการการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติทางศาสนา โดยดำเนินกิจกรรมฯ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อันดับ 3 ผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อันดับ 4 เปิดแหล่งเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมหรือเรียนรู้ผ่านสื่อเทคโนโลยีออนไลน์ และอันดับ 5 นำศิลปินดารา บุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมรณรงค์/เชิญชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามได้มีแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรม/ประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่ควรสืบสานรักษาไว้ให้คงอยู่คู่สังคมไทย เช่น ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประเพณีและวัฒนธรรมในวันสำคัญของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ บุญประจำประเพณี เทศกาลต่างๆของท้องถิ่นและชาติ อาทิ สารทเดือนสิบฮีตสิบสองที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเพณีและวัฒนธรรมประจำชาติของพุทธศาสนิกชนคนไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน ฟังธรรม เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น