“คลองบางมด” เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือที่ไม่ควรพลาด

(23 ก.พ. 65) นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และสำนักงานเขตทุ่งครุ ลงเรือตรวจเยี่ยมพื้นที่คลองบางมดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวชุมชน โดยได้แวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญตลอดแนวคลอง พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมพื้นที่ ชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเห็นความสำคัญในการพัฒนาคลองบางมดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเรือแห่งใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตลอดเส้นทางคลองบางมดเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งความรู้ที่หลากหลาย ยังคงความเป็นวิถีชุมชนที่ผสมผสานหลายศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ อิสลาม และจีน ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเส้นทางคลองบางมดอยู่บ้างแล้ว จากการลงพื้นที่ในวันนี้กรุงเทพมหานครจะดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนในเส้นทางคลองบางมด อาทิ ด้านความปลอดภัย ดูเรื่องการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง การติดตั้งกล้องวงจรปิด การจัดทำท่าเทียบเรือในจุดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งตลอดเส้นทางคลองบางมดมีสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวมากมาย เช่น การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดบัวผัน จุดชมวิวคลองค้างคาว สวนมะพร้าวน้ำหอม กำแพง “ศิลป์ประชารังสรรค์” แพตายืน มัสยิดนูรุลหุดา มัสยิดดาริลหะซัน บ้านขนมไทย สวนส้ม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตทุ่งครุ ฯลฯ

สำหรับไฮไลท์สำคัญในการท่องเที่ยวย่านบางมด ได้แก่ 1.วัดพุทธบูชา วัดสวยงามริมคลองบางมด ศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ นมัสการรูปเหมือนหลวงปู่มั่นองค์ใหญ่ กราบพระพุทธชินราชจำลอง ชื่นชมความงามของพระมหาธาตุเจดีย์ศรีพุทธบูชา มีจุดล่องเรือหรือเส้นทางเดินเรียบคลองเพื่อชมธรรมชาติและวิถีชุมชน 2. วัดหลวงพ่อโอภาสี 3.ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าแบบจีนไหหลำอายุกว่า 100 ปี ที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ทับทิมเทพธิดาแห่งท้องทะเล พร้อมเทพองค์สำคัญที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในคลองบางมดและทั่วประเทศเลื่อมใส 4. มัสยิดนูรุลหุดา มัสยิดเก่าที่บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันฉันเครือญาติของพี่น้องชาวมุสลิม ตัวมัสยิดสร้างจากไม้สักทองอายุกว่า 100 ปี ที่รื้อมาจากสุเหร่าเก่าย่านถนนตก 5. สวนธนบุรีรมย์ สวนสาธารณะของชาวบางมด สัมผัสกับบรรยากาศสวนสวยริมคลองที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นร่องสวนเดิมไว้ได้อย่างลงตัว ชมวิวสวนจากศาลาใหญ่ เพลินตาเพลินใจไปกับแมกไม้นานาพันธุ์ มีกิจกรรมมากมายให้เลือกสรรค์สำหรับผู้รักสุขภาพ 6. สวนส้มบางมด ศึกษาสวนส้มเชิงอนุรักษ์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่สวนผู้ใหญ่ชาติและสวนคุณลุงสมจิตร รวมถึงเรียนรู้แนวคิดการปลูกส้มเชิงสัญลักษณ์ในชุมชน และ 7.ตลาดมดตะนอย ตลาดนัดวิถีชุมชนที่จัดขึ้นเพียงเดือนละครั้งให้คุณได้ดื่มดำกับเสน่ห์ของชีวิตชาวสวนริมคลองบางมดอย่างใกล้ชิด ชมตลาดและเพลิดเพลินไปกับสินค้าจากชุมชน อาหารฮาลาล กิจกรรมทำงานศิลป์ พร้อมล่องเรือชมสวน ลุยอะเมซอนแห่งคลองบางมด

นอกจากนี้ ผู้สนใจปั่นจักรยานริมคลองบางมดยังสามารถปั่นจักรยาน วิ่งหรือเดินออกกำลังกายยังสามารถทำกิจกรรมได้ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับนาง ซอยประชาอุทิศ 76 ถึงโรงเรียนบางมด (ตันเปาว์วิทยาคาร) ด้วย เพราะตลอดริมคลองบางมดมีทางเดินเลียบริมคลองยาวตลอดเส้นทาง อีกทั้งบริเวณคลองรางโพธิ์บนซึ่งเป็นคลองต่อเชื่อมกับคลองบางมดยังมีการเปิดให้เช่าเรือคายัคพายในคลองดังกล่าวด้วย ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมทางเลือกในการท่องเที่ยวและพักผ่อนที่น่าสนใจ โดยผู้ที่สนใจจะมาท่องเที่ยวชมธรรมชาติบริเวณคลองบางมดสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเส้นทางท่องเที่ยวหรือการเช่าเรือท่องเที่ยวได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตทุ่งครุ โทร. 0 2464 4391 เพจ “เที่ยวคลองต้องลองเที่ยว” โทร. 08 6989 2888

สำหรับคลองบางมด เป็นคลองย่อยในระบบคลองด่านและคลองบางขุนเทียน ไหลผ่านในพื้นที่ของเขตจอมทอง เขตทุ่งครุ และเขตบางขุนเทียน มีความยาวประมาณ 15,800 เมตร มีแนวทางน้ำค่อนข้างตรง ต่างจากคลองธรรมชาติบริเวณนี้ที่มีลักษณะคดเคี้ยว จึงคาดว่าเป็นคลองที่ขุดขึ้นเพื่อผันน้ำเพื่อการเกษตร มีต้นสายแยกออกจากฝั่งทิศใต้ของคลองสนามชัยเยื้องกับวัดไทร ไหลลงใต้ มีคลองบางขุนเทียนไหลขนานมาไหลหักศอกเข้ามาจนใกล้คลองบางมดมากบริเวณแยกคลองระแนะน้อย โดยมีคลองข่อยเป็นตัวเชื่อมจนมาเป็นคลองเส้นเดียวกัน ไหลลงใต้มาสุดสิ้นที่บริเวณวัดบัวผัน ในอดีตเป็นเส้นทางสัญจรคมนาคมระหว่างบางกอกกับหัวเมืองทางตะวันตกและปักษ์ใต้ การตั้งถิ่นฐานในบริเวณคลองบางมด สันนิษฐานจากการมาตั้งถิ่นฐานของชุมชนย่านบางขุนเทียน ท่าข้าม หัวกระบือ ที่เริ่มมีการตั้งชุมชนตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย จึงอาจมีการตั้งถิ่นฐานในแถบบางมดบ้างแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนพอสันนิษฐานได้จากการตั้งวัด เช่น วัดยายร่มในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดโพธิทองสมัยรัชกาลที่ 4 และมัสยิดนูรุ้ลฮุดา ในสมัยรัชกาลที่ 6 การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน คือ การทำสวนส้มบางมด มีชาวจีนในพื้นที่ได้นำกิ่งพันธุ์จากทางบางบน (บางขุนนนท์ ตลิ่งชัน บางกอกน้อย) เริ่มเพาะปลูกในย่านบางมดนี้ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2468 ปรากฏว่าได้ผลดี เป็นที่นิยมของทั้งประเทศ จึงเกิดการเคลื่อนย้ายระลอกใหญ่ของผู้คนเพื่อมาบางมดเพื่อบุกเบิกสวนส้ม มีการตั้งตลาดปากคลองศาลเจ้าแม่ทับทิม มีโรงหนังศรีเจริญบางมด (ประมาณ พ.ศ. 2505 มีมัสยิดใหม่ เช่น ดาริ้ลหะซัน (สอนสมบูรณ์) ดารุ้ลอิบาดะห์ วัดพุทธใหม่ เช่น วัดพุทธบูชา (พ.ศ. 2497) วัดหลวงพ่อโอภาสี (ประมาณ พ.ศ. 2500) แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2526 และ 2534 ทำให้ชาวบางมดย้ายไปทำสวนที่อื่น อีกทั้งมีการตัดถนนพุทธบูชา ถนนพระรามที่ 2 ถนนท่าข้าม ถนนบางขุนเทียนชายทะเล ฯลฯ เกิดบ้านจัดสรรหลายโครงการรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ในระยะราว 50 ปีหลัง ได้มีการขยายคลองอันเกิดจากเรือหางยาวขนส้มเข้ามามากจนตลิ่งถูกซัดไป เมื่อ พ.ศ. 2560 เริ่มมีการสร้างเส้นทางปั่นจักรยานระยะทาง เลียบไปกับคลองบางมด