รมว.พม. ลุยโกดังชาบูอีกครั้ง พร้อมควงเชฟชุมพล แนะทำเมนูพิเศษ เน้นบริการ คุณภาพอาหาร ราคายุติธรรม ช่วยร้านฝ่าวิกฤตโควิด - 19

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 เวลา 11.45 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวง พม. นางสาวชมพูนุท นาครทรรพ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ ณ ร้านโกดังชาบู ย่านตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือต่างๆ หลังจากที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับทางร้าน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา อีกทั้งนำเชฟชุมพล แจ้งไพร มาเยี่ยมร้านและชิมชาบู เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับรสชาติอาหาร วัตถุดิบ และการบริหารจัดการร้าน อาทิ การดูแลเรื่องต้นทุน ราคาอาหาร และเมนู เป็นต้น

นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ กระทรวง พม. ได้มาติดตามความคืบหน้าของการแก้ปัญหาของครอบครัวหนึ่ง โดยได้ติดต่อแพทย์เพื่อให้สามีได้รักษาอาการป่วยซึมเศร้า และติดต่อโรงเรียนเพื่อให้ลูกๆ ได้ไปโรงเรียน ทั้งนี้ ร้านโกดังชาบูไม่ใช่ร้านพิเศษ เพราะปัญหาซับซ้อนลักษณะนี้เกิดขึ้นเยอะในประเทศไทย เราต้องดูว่าปัญหามีอะไรบ้าง และแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ซึ่งเราต้องขอขอบคุณเชฟชุมพลที่มาช่วยดูกรณีนี้ให้โดยเฉพาะว่ามีอะไรบ้างที่สามารถปรับปรุงให้ร้านอยู่รอดแบบยั่งยืนได้ เพราะรัฐบาลนี้ต้องการช่วยให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้ เราพยายามมุ่งเน้นว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งกรณีนี้เป็นปัญหาที่ยากและซับซ้อนมาก ตนเชื่อว่าร้านและครอบครัวจำนวนมากกำลังประสบปัญหาลักษณะนี้ โดยจะนำเอาไปเป็นกรณีศึกษาและแก้ไขให้ตรงกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลนี้ทำให้ทุกคนและไม่ได้เลือกปฎิบัติ เมื่อทราบปัญหาแล้ว เราพยายามช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ซึ่งวันนี้เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันหลายกระทรวง ด้านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงร้านโกดังชาบูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนจึงต้องตอบความจริงว่ารัฐบาลนี้ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และต้องช่วยให้ยั่งยืน อยู่รอดให้ได้ ซึ่งปัญหามีเยอะเหมือนกับร้านอื่นๆ หากใครมีปัญหาก็ขอให้แจ้งมา เราพร้อมเข้าไปช่วยเหลือเป็นเพื่อนของท่านเพื่อแก้ปัญหาให้เกิดความยั่งยืน อาจจะแก้ไม่ได้ทุกปัญหา แต่พยายามทำสุดชีวิตเหมือนท่านเป็นพี่น้องของเราเอง ฉะนั้น วันนี้จะเป็นต้นแบบของการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาและเป็นแนวทางสำหรับคนอื่นๆ ขออย่ายอมแพ้ให้กับชีวิต เพราะรัฐบาลนี้ไม่ทิ้งใครแน่นอน

นายชุมพล กล่าวว่า ตนในฐานะสถาบันอาหารไทยฯ ได้ร่วมงานกับ กระทรวง พม. เพื่อฝึกอาชีพให้กับกลุ่มสตรีและครอบครัวอยู่แล้ว วันนี้ ทุกคนมีปัญหา แต่เราจะใช้ประสบการณ์มาช่วยกัน เพื่อให้เราอยู่ต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ตนอยากฝากว่า ขอให้ช่วยกันสนับสนุนคนไทยด้วยกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือความพอใจของลูกค้าเป็นที่หนึ่ง เราไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพ ต้องสู้อย่างมีเป้าหมายและมีรูปแบบ ต้องคิดอะไรใหม่ๆ เพราะทุกคนมีความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน ซึ่งต่อไป ร้านนี้อาจจะเป็นร้านชาบูที่มีเมนูพิเศษเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง และทำอาหารที่มีคุณภาพและราคายุติธรรมต่อผู้บริโภค รวมทั้งการให้บริการลูกค้าที่ดี เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาที่ร้านอีก

นางสาวมธุรา อดเหนียว (แก้ว) เจ้าของร้านโกดังชาบู กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้เป็นร้านต้นแบบ เพื่อให้หลายๆ ร้านที่ประสบปัญหาเหมือนกัน ได้นำเอาไปปรับใช้และช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อให้ผ่านพ้นไปได้และสู้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ตนอยากขอคำปรึกษาจากเชฟชุมพลให้ช่วยเหลือในเรื่องเทคนิคการทำอาหารและวัตถุดิบเพื่อให้มีคุณภาพและราคาที่เราและผู้บริโภคไม่ขาดทุน