ปลัดมท.ฝากขรก.พันธุ์ใหม่ นปร. รุ่น 15 ก่อนไปปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค ย้ำ เป็นขรก.ที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-อุทิศตัวเพื่อประชาชน - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ปลัดมท.ฝากขรก.พันธุ์ใหม่ นปร. รุ่น 15 ก่อนไปปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค ย้ำ เป็นขรก.ที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-อุทิศตัวเพื่อประชาชน


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดและให้โอวาทกับข้าราชการโครงการพัฒนาบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (Public Service executive development program: PSED) หรือ “นปร.” รุ่นที่ 15 ก่อนไปปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค โดยมี หม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล ผู้อํานวยการสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายปวิณ ชำนิประศาสน์ อาจารย์ที่ปรึกษาประจำโครงการ นายบุญธรรม ถาวรทัศนกิจ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ และข้าราชการ นปร. รุ่นที่ 15 จำนวน 30 คน ร่วมในพิธี  เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอบคุณสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ให้เกียรติและความสำคัญกับกระทรวงมหาดไทยในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะฝึกประสบการณ์การทำงานของข้าราชการ นปร. รุ่นที่ 15 ให้ได้เรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ ในการรับใช้ชาติในหน้าที่ข้าราชการที่มีเกียรติอย่างยิ่ง โดยขอให้ตระหนักและน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นเครื่องเตือนใจอยู่เสมอว่า “อาชีพของข้าราชการนั้นเป็นอาชีพที่มีหน้าที่ในการทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความชื่นใจ”

“ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพในการที่จะไปทำงานอะไรก็ได้ แต่ก็ตัดสินใจเสียสละทำงานรับใช้ประเทศชาติด้วยการดูแลพี่น้องประชาชนและประเทศชาติของเรา อันประกอบไปด้วยสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีความมั่นคง ซึ่งการดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความสุขสวัสดีอย่างมั่นคงและยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีโซ่ข้อกลางระหว่างรัฐบาล นั่นคือ “ข้าราชการ” ไปช่วยทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการพัฒนา และการพัฒนาที่สำคัญที่สุด คือ “การพัฒนาคน”” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวอีกว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ “ใจต้องเป็นนาย กายต้องเป็นบ่าว” ใจเป็นนาย หมายความว่า คนเราจะทำอะไรจิตใจต้องตั้งมั่นเสียก่อน ต้องมีอุดมการณ์ มีแรงปรารถนาที่แรงกล้า (Passion) มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่อยากทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น ทั้งกับชีวิตเรา ชีวิตครอบครัว มวลมนุษยชาติ และพี่น้องประชาชนที่เราต้องดูแล และร่างกายของเราก็จะปฏิบัติตามจิตใจที่ดีงาม จิตใจที่มีความเมตตา มีความเห็นอกเห็นใจผู้คน พร้อมที่จะให้โอกาสคนได้ทำสิ่งที่ดี ยึดโยงกลุ่มก้อน นปร. รุ่น 15 นี้ ให้ช่วยกันดูแล เป็นกำลังใจ มีแรงปรารถนาแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่มีความเก่าแก่ มีคำขวัญว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งเป็นพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดี โดยคนมหาดไทยยังคงน้อมนำคำขวัญนี้มาใช้จนถึงปัจจุบัน ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะภารกิจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชนยังคงต้องขับเคลื่อนดำเนินต่อไปในทุกพื้นที่ ด้วยการทำงานของ 8 ส่วนราชการ และ 6 รัฐวิสาหกิจ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ (Area Base) ของประเทศชาติ เป็นผู้นำ ที่ร่วมทำงานกับทุกกระทรวง ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เป็นประธานคณะกรรมการของทุกกระทรวง กรมในระดับจังหวัดไม่น้อยกว่า 202 คณะ ครอบคลุมทุกมิติ โดยในปัจจุบันโครงสร้างของระบบราชการในระดับจังหวัด ประกอบด้วยส่วนราชการทั้งราชการบริหารส่วนกลางประจำภูมิภาค ทำหน้าที่ในเชิงการกำกับดูแล การติดตามนโยบาย ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่ หรือจังหวัดที่อยู่ใจกลางภาค ถัดมา คือ ราชการบริหารส่วนภูมิภาค แบ่งอำนาจการบริหารจากส่วนกลาง ทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และอำเภอ โดยนายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ทำหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ ตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้การกำกับดูแลของราชการบริหารส่วนภูมิภาค

“ขอให้ นปร. มีอุดมการณ์ในการทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เป็นข้าราชการของนักการเมืองที่มีการแบ่งพรรค แบ่งพวก ถ้าเราเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะได้เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณในการดูแลพี่น้องประชาชน ช่วยเหลือ บริการ ด้วยความเต็มใจ ไม่ไขว้เขว ไม่เป๋ไปรับใช้บางกลุ่ม บางคน บางพวก ในสมกับชุดเครื่องแบบที่ข้าราชการสีกากี ซึ่งเป็นเครื่องแบบพระราชทาน อันมีนัยว่า แผ่นดิน หรือสีของดิน เพื่อให้เราตระหนักอยู่เสมอว่า เราทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน และสถาบันหลักทั้ง 3 ของแผ่นดินไทย คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เป็นที่รักยิ่งของเรา” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเราทุกคนปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว การประพฤติปฏิบัติตนในการเป็นข้าราชการก็จะบรรลุอุดมการณ์แห่งความเสียสละ แห่งความกตัญญูกตเวทีต่อแผ่นดิน ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ทำงานโดยไม่คิดว่าจะต้องเข้างาน 08.30 น. เลิกงาน 16.30 น. ทุกเวลาเป็นเวลาที่เราสามารถอุทิศให้กับราชการให้กับประชาชนได้อย่างมีความสุข จนกระทั่งเกษียณอายุราชการเมื่อวัย 60 ปี แต่ถึงกระนั้น สายเลือดหรือจิตวิญญาณความเป็นข้าราชการ แม้จะเกษียณอายุราชการแล้ว ก็ยังคงมีอุดมการณ์แห่งความเสียสละตนเองเพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ดังเช่นพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เคยพระราชทานที่จังหวัดนครนายก เมื่อปี 2553 ใจความว่า “การทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมไม่ได้ทำเพื่อแค่เกษียณอายุราชการหรือไม่ได้ทำแค่ในเวลาราชการ หน้าที่ของพวกเราทุกคนต้องทำงานไม่มีวันเกษียณจากการทำงาน เราเกษียณจากอายุราชการได้ แต่ต้องไม่เกษียณจากการทำงานเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม เราเกษียณอายุราชการได้เพราะอายุเราครบ 60 ปี แต่เราต้องไม่เกษียณจากการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม”

“ขอให้ นปร. รุ่นที่ 15 ทุกคน ใช้ความรู้คู่คุณธรรมด้วยความตั้งมั่นและมุ่งมั่นในการที่จะทำงานเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามขึ้นกับคนที่ยังยากลำบาก ให้กับสังคม และประเทศชาติ เพื่อพวกเราทุกคนได้มีโอกาสในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และช่วยกันธำรงรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของแผ่นดินไทยที่รักยิ่งของพวกเราให้ดำรงคู่กับโลกใบนี้ รวมทั้งขอให้ธำรงรักษาอุดมการณ์ที่มีมาก่อนสมัครเป็น นปร. รุ่น 15 ใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ และก้าวสู่การเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ข้าราชการที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความชื่นใจ และขอเป็นกำลังใจและเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของ นปร. รุ่น 15 ที่จะส่งผลถึงความสุขของพี่น้องคนไทยโดยรวมตลอดไป” นายสุทธพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น