"ลุงตู่" มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานไทย พร้อมรองรับปริมาณสินค้าขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมไทย-ลาว-จีน ไร้รอยต่อ พร้อมตั้งTeam Thailand บริหารสมดุล demand-supply - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565

"ลุงตู่" มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานไทย พร้อมรองรับปริมาณสินค้าขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมไทย-ลาว-จีน ไร้รอยต่อ พร้อมตั้งTeam Thailand บริหารสมดุล demand-supply



โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานไทย พร้อมรองรับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมการขนส่งสินค้าและการเดินทาง ไทย-ลาว-จีน ไร้รอยต่อ พร้อมตั้งทีม(Team Thailand) บริหารจัดการความสมดุลระหว่าง demand และ supply การขนส่ง เพื่อประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  23 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าเชื่อมต่อรถไฟไทย ลาว และจีน อย่างไร้รอยต่อ ทั้งการเดินทางและขนส่งสินค้า ในระหว่างการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาโครงข่าย มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานของไทยมีความพร้อมรองรับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าไทย ลาว และจีน โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน ในลักษณะทีมประเทศไทย (Team Thailand) เพื่อบริหารจัดการสมดุลระหว่างปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งกับความสามารถรองรับของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ระหว่าง demand และ supply 

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย โดยหน่วยงานฝั่ง demand คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขณะที่ฝั่ง supply ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่วมวางแผนกำหนดนโยบายการเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน พร้อมจัดทำแผนการขนส่งสินค้า เพื่อกำกับ ติดตามเร่งขับเคลื่อนการเชื่อมโยงทางรถไฟ พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน

อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา มีมติ ดังนี้

1) รับทราบสถานะการค้าการขนส่งชายแดนจังหวัดหนองคายหลังจากรถไฟลาว- จีน เปิดให้บริการปัจจุบันมีการเพิ่มรถไฟจาก 4 ขบวนต่อวันเป็น 14 ขบวนต่อวันและจากการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ยังมีปริมาณการขนส่งทางรถไฟไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรค Covid -19

2) รับทราบผลการประชุม 3 ฝ่ายระหว่างไทย ลาวและจีน (วันที่ 19 พ.ย. 64) เห็นชอบการลงทุนร่วมกันในสะพานแห่งใหม่ระหว่างไทยและลาวในอาณาเขตของตนเอง รวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาร่วมกันต่อไป

3) เห็นชอบแผนการดำเนินงานการเชื่อมโยง เช่น 1. โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ นครราชสีมาและหนองคาย 2. โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น หนองคาย 3. การพัฒนาสถานีหนองคาย โดยจะติดตั้ง MOBILE X-RAY สำหรับตรวจปล่อยสินค้าทางรถไฟในระยะเร่งด่วน ย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศที่สถานีนาทาที่จะเสนอให้เอกชนร่วมทุนภายในปี 65 นี้ โดยรฟท. จะของบกลางเพื่อเร่งรัดการออกแบบรายละเอียดของสะพานมิตรภาพแห่งใหม่และก่อสร้างที่เกิดการเชื่อมโยงต่อไป

4) เห็นชอบหลักการการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาวและจีน

5) มอบหมาย Team Thailand ลงพื้นที่เพื่อสำรวจรวบรวมข้อมูลโครงการรถไฟความเร็วสูง ลาว -จีน เพื่อศึกษาศักยภาพพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ในแต่ละสถานี และสร้างการรับรู้ให้แก่ภาคเอกชนและภาคประชาชนต่อไป

นายธนกร ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบรางของไทยในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค และประเทศไทยกับระหว่างประเทศ เพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอาเซียน และประชาชนได้ประโยชน์ทั้งการเดินทางและเศรษฐกิจ ตามวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น