ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ว่า ครม. อนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยจะมีการลงนามได้ในช่วงการประชุม OECD Ministerial Meeting on Southeast Asia ณ กรุงโซล ระหว่างวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งการประชุม OECD Ministerial Meeting on Southeast Asia จัดขึ้นเพื่อประสานความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคอาเซียนและ OECD ในการส่งเสริมนโยบายเพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างยั่งยืนในประเด็นต่างๆ เช่น การจ้างงาน มาตรฐานการครองชีพ เสถียรภาพทางการคลัง เป็นต้น
ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ เป็นกรอบในการเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศโดยไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์พื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียน และ OECD ในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน รวมทั้งกำหนดกรอบยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานและพัฒนาความร่วมมือในสาขาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสังคม รวม 36 สาขา เช่น 1) การตอบสนองต่อโควิด-19 2) ภาษีอากร 3) การจัดการการเงินภาครัฐ 4) แนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ 5) การอำนวยความสะดวกทางการค้า 6) การลงทุน เป็นต้น โดยแต่ละประเทศจะร่วมมือกันผ่านวิธีต่างๆ เช่น การแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการ การสนับสนุนการวิจัยหรือการศึกษา ซึ่งจะร่วมกันจัดทำแผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่จะดำเนินการในระยะเวลา 2 ปี โดยจะมีการประชุมเพื่อประเมินความคืบหน้าและหารือแนวทางการทำงานเป็นระยะ และแต่ละประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจจะมีผลใช้บังคับนับจากวันที่ลงนามเป็นระยะเวลา 5 ปี
นางสาวรัชดากล่าวด้วยว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ เมื่อมีผลบังคับใช้จะเป็นประโยชน์กับไทยและประเทศสมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูล ประสบการณ์ ในการจัดทำนโยบายต่างๆ ของ OECD เพื่อใช้ประกอบการจัดทำนโยบายด้านเศรษฐกิจ และสังคมของไทยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น