กระทรวงแรงงาน ชวนคนหางานใช้บริการ เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th และผ่านแอปฯ “ไทยมีงานทำ” ที่รวบรวมตำแหน่งงานภาครัฐ เอกชน และตำแหน่งงานจากบริษัทจัดหางานไว้มากที่สุด พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน เตรียมตำแหน่งงานว่างรองรับคนว่างงาน คนหางาน ผู้จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้เปราะบาง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และทุกคนที่ต้องการมีงานทำ ผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เว็บหางานและหลักสูตรฝึกอบรมที่ประชาชนสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานที่สนใจและเหมาะสมกับตนเอง หลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสการมีงานทำ โดยเป็นช่องทางรองรับความต้องการจ้างงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งพร้อมให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application
โดยเดือนมกราคม 2565 มีตำแหน่งงาน (Active ในระบบ) จำนวน 204,689 อัตรา ซึ่งตำแหน่งงาน 5 อันดับแรกที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่ 1. แรงงานด้านการผลิต ,แรงงานทั่วไป 2. พนักงานขาย/ตัวแทนนายหน้าขายบริการธุรกิจอื่น ๆ 3. พนักงานจัดส่งสินค้าอื่น ๆ 4. ธุรการ ,เสมียนทั่วไป และ 5. พนักงานขับรถยนต์
“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง คนหางาน และผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมทั้งนักศึกษาจบใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ทำงาน ทำให้เข้าสู่ตลาดแรงงานได้ยาก ซึ่งผมไม่เคยนิ่งนอนใจ เพราะปัญหาการว่างงานเป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ ขณะนี้ได้สำรวจและเตรียมตำแหน่งงานไว้แล้ว จำนวน 204,689 อัตรา จากทั่วประเทศ โดยกิจการที่มีความต้องการจ้างแรงงานไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร 2.การขายปลีกสินค้า ในร้านค้าทั่วไป 3. การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ 4.หน่วยงานราชการ 5. การบริการอื่น ๆ โดยมีความต้องการในทุกระดับวุฒิการศึกษา ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าประถมศึกษา จนถึงระดับปริญญาโท ซึ่งคนหางานที่ต้องการสมัครงาน และนายจ้างที่ต้องการประกาศรับสมัครงาน สามารถใช้บริการจัดหางานออนไลน์กับกระทรวงแรงงานได้ที่เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th หรือ Application “ไทยมีงานทำ” ที่รวบรวมตำแหน่งงานไว้มากที่สุด และพร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้กระทรวงแรงงานยังขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ที่นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ขนาดเล็ก – กลาง ให้ได้รับเงินอุดหนุนช่วยเสริมสภาพคล่อง สร้างความแข็งแรง และฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยังมีเป้าหมายสำคัญในการพยุงการจ้างงานเพื่อให้ลูกจ้างสัญชาติไทยไม่ถูกเลิกจ้าง ตามเงื่อนไขโครงการที่จะได้รับสิทธิเงินอุดหนุนจากรัฐบาลต่อเมื่อรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หรือห้ามเลิกจ้างพนักงานเกินร้อยละ 5” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากข้อมูลการให้บริการจัดหางาน ในปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา มีตำแหน่งงานว่างสะสม 562,635 อัตรา ผู้สมัครงานมาใช้บริการ 396,275 คน และบรรจุงานแล้ว 283,202 คน โดยกรมการจัดหางานได้อัพเดตและรวบรวมข้อมูลการจ้างงานจากภาครัฐที่เชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. มีตำแหน่งงานจากหน่วยงานราชการกว่า 300 หน่วยงาน หน่วยงานที่ขณะนี้มีความต้องการจ้างงาน (Active ในระบบ) ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมท่าอากาศยาน กรมการค้าต่างประเทศ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสุขภาพจิต เป็นต้น และยังมีตำแหน่งงานภาคเอกชน และบริษัทจัดหางานชั้นนำบนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” ซึ่งมีสถานประกอบการจำนวนมากที่มีตำแหน่งงานเปิดรับมากกว่า 100 อัตราขึ้นไป เช่น บริษัท เอก – ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด บริษัท โรฟุ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท วนิดา ฟู้ดส์ จำกัด บริษัท เอเชีย เวิลด์ซัพพลาย จำกัด บริษัท ยูโรเซียเอช. อาร์.โซลูชั่น จำกัด
โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และ ภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการประกาศรับสมัครงานสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ โดยการลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน
สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น